พุธที่แล้วผมบอกว่าเราจะปฏิรูปได้สำเร็จก็ต่อเมื่อเราต้องยอมรับความจริงว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาไทยเราถอยหลัง อย่างแรงทุกด้านเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยที่เรายังไม่รู้สาเหตุ ที่สำคัญเรายังเขียนยุทธศาสตร์กันไม่เป็น ซึ่งผมขอให้ไปดูยุทธศาสตร์ของมาเลเซียที่ชื่อ ONE MALAYSIA ที่ทำให้มาเลเซียกำลังจะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว แซงหน้าประเทศไทย
วันนี้เราหมดเวลาสำหรับการลองผิดลองถูกในการเขียนยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปประเทศแล้วครับ และหมดเวลา สำหรับข้ออ้างที่ว่าสังคมไทยเรามีลักษณะเฉพาะ ไม่เหมือนประเทศอื่นๆในโลก เราต้องหาวิธีการของเราเอง
ผมเชื่อว่าวิธีปฏิรูปที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดสำหรับเมืองไทยวันนี้ก็คือไปดูว่าประเทศอื่นเขาเขียนยุทธศาสตร์หรือเขาปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆอย่างไร แล้วมาถามตัวเองว่า เราจะทำอย่างเขาบ้างได้มั้ย? ถ้าทำไม่ได้ มันติดขัดอะไร? อุปสรรคที่ติดขัดนั้นต้องแก้ไขอย่างไร? ผมว่าถ้าถามคำถามเป็น ถามแค่นี้เราก็น่าจะปฏิรูปประเทศกันได้แล้ว
นอกจากเรื่องการปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐซึ่งไทยเราควรไปดูยุทธศาสตร์ ONE MALAYSIA แล้วเราควร ไปดูวิธีการเขียนยุทธศาสตร์ของประเทศสิงคโปร์ซึ่งผมว่าสามารถเอามาเป็นต้นแบบในการเขียนยุทธศาสตร์ของไทยเราได้สบายๆ มีไม่กี่หน้าแต่อ่านแล้วรู้ว่าประเทศจะเดินไปทางไหน เป้าหมายคืออะไร รัฐต้องทำอะไร? เอกชนต้องทำอะไร? ไม่เมหือนยุทธศาสตร์แบบไทยๆรู้ปัญหาสารพันแต่ไม่มีวิธีการแก้ไข
ส่วนเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชั่นนั้น แม้ว่า ICAC ของฮ่องกงจะเป็นต้นแบบของการปราบปรามคอร์รัปชั่น ทั่วโลก แต่ผมว่ายุทธศาสตร์การปราบคอร์รัปชั่นแบบ ACRC ของเกาหลีใต้นั้นน่าจะเหมาะสมกับเมืองไทยที่สุด เพราะรูปแบบการคอร์รัปชั่นเป็นการบูรณาการการโกงในสังคมอุปถัมภ์เหมือนเรา ธุรกิจขนาดใหญ่ร่วมมือกับ พรรคการเมืองและพรรคราชการเหมือนไทยเรา ดังนั้นการปราบปรามที่สำเร็จแบบฮ่องกงหรือ สิงคโปร์ที่อาศัย ความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นของผู้นำในการจับและปราบแหลกนั้นเกาหลีใต้และไทยไม่น่าจะทำได้ ACRC ของเกาหลีใต้ จึงใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยในการปราบปรามคอร์รัปชั่นอย่างได้ผลจนโลกยกย่อง ที่ปปช.เมืองไทยและกลุ่ม ACT พยายามจะเรียกร้องให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนเข้ามามีส่วนร่วมนั้นน่ะ ลองไปดูสิครับว่า ACRC เขาเอาระบบไอทีมาตอบโจทย์นี้อย่างไร ระบบคุ้มครองพยาน ระบบการจัดงบประมาณแบบประชาชนมี ส่วนร่วม เขาทำกันอย่างไร ไปดูเลยครับดูแล้วลอกการบ้านได้เลย
ส่วนรูปแบบการสืบสวนสอบสวนจับกุมและการตัดสินคดีคอร์รัปชั่น ผมขอให้ไปดู KPK ของอินโดนีเซีย เพราะหลังๆมานี่เขาสามารถจับกุมและตัดสินลงโทษคนระดับประธานศาลรัฐธรรมนูญได้ภายในระยะเวลาปีนิดๆเท่านั้นเอง ไปดูซิว่าอะไรที่ ปปช.เราไม่มีถึงทำงานเด็ดขาดและรวดเร็วอย่างเขาไม่ได้
ส่วนการปฏิรูปการจัดการเลือกตั้ง ผมขอให้ไปดูการทำงานของ KPU ของอินโดนีเซีย ไปดูว่าเขาจัดระบบกัน อย่างไรถึงสามารถจัดการเลือกตั้งกับ 550,000 หน่วยเลือกตั้งใน 6,000 เกาะที่มีคนอาศัยอยู่กันอย่างไรคนดีมีความ สามารถจึงได้รับเลือกตั้ง ไปดูสิครับจะได้เห็นข้อดีว่าเวลาองค์กรอิสระแบบ KPU ก็ต้องโดนตรวจสอบโดยหน่วย งานอื่นๆ ทุกองค์กรไม่ว่าจะใหญ่หรือมีอิสระแค่ไหนก็ต้องถูกตรวจสอบได้ นั้นมันดีกว่าระบบในไทยอย่างไร ไปดูสิครับว่าระบบการนับคะแนนแบบคู่ขนาน หรือ Quick Count ของเขาช่วยป้องกันการโกงเลือกตั้งได้อย่างไร
นี่แค่เป็นตัวอย่างการเขียนยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปประเทศที่ได้ผล ซึ่งทุกวันนี้ประเทศรอบๆบ้านเราเขาทำได้ กันหมดแล้ว ถ้าเรายังหลอกตัวเองว่าเราไม่เหมือนใคร เราต้องปฏิรูปกันเอง ผมเกรงว่าเราจะยิ่งถอย หลังลงคลองนะครับ
ขอร้องล่ะครับ อย่าโง่แล้วหยิ่งเลย ลอกการบ้านคนเก่งเถอะครับไม่เสียหายหรอก ดีกว่าทำผิดซ้ำซาก
