PERSPECTIVE OF AEC เรือลำน้อย

0
517

เมื่อตอนที่ สีจิ้นผิง ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อหน้าที่ประชุมใหญ่ ของสมัชชาผู้แทน ประชาชนจีนทั่วประเทศปีที่แล้วนั้น เขาได้พูดถึง “ความฝันของจีน” หรือ “ Chinese Dream” ไว้อย่างน่าสนใจ

ว่า “ความฝันของจีนเป็นความฝันของประชาชนและประชาชนเองนั่นแหล่ะที่จะเป็นผู้ทำให้ความฝัน นั้นกลายเป็นจริงขึ้นมาได้” นอกจากนั้นสีจิ้นผิงยังได้ขยายความต่อว่า “ชีวิตของคนเราก็เหมือนเรือ ความฝันของเราเรียบเสมือนใบของเรือ ถ้ามีชีวิตแต่ไม่มีความฝันก็เสมือนเรือไม่มีใบ คงแล่นไปแบบไร้ทิศทาง”

ที่น่าสนใจสะท้อนวิธีคิดของสีจิ้นผิงและคมคายมากก็คือ “ทุกคนย่อมมีความฝันเป็นของตนเองแต่เราทุกคนต่างก็ เป็นคนจีนอาศัยอยู่ในจีนเหมือนๆกัน เพราะฉะนั้นความฝันของคนจีนต้องเป็นฝันที่สอดคล้องและเป็นไปใน ทิศทางเดียวกันกับฝันของประเทศชาติ เมื่อประเทศชาติเจริญก้าวหน้าไปได้ดีประชาชนก็จะอยู่ดีกินดี   มีสุขไปด้วย”

นั่นเป็นครั้งแรกที่โลกได้ยินคำว่า “ความฝันของจีน” ซึ่งมีความหมายและบริบทต่างไปจาก “ความฝันของ อเมริกัน” หรือ “ American Dream”  ซึ่งเราได้ยินบ่อยๆ เพราะความฝันของจีนเป็นความฝันของแต่ละบุคคล แต่ฝันนั้นจะต้องผูกพันกับฝันของประเทศชาติ ต่างไปจากฝันของอเมริกันซึ่งเป็นฝันของแต่ละคน ใครอยากจะฝันอะไรก็ฝันไม่จำเป็นต้องผูกพันกับฝันของชาติ

แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือประโยคของสีจิ้นผิงที่ว่า “ชาติที่ไม่ความฝันเป็นชาติที่น่าเศร้า ชาติที่มีแต่ความฝันแต่ไม่มี ความแน่วแน่มุ่งมั่นและแนวทางที่จะทำให้ฝันของชาติเป็นจริงเป็นชาติที่ไม่มีอนาคต” ถ้าอธิบายในเชิง ยุทธศาสตร์ ความฝันของชาติในสุนทรพจน์ของสีจิ้นผิงก็คือวิสัยทัศน์หรือตำแหน่งของประเทศนั่นเอง ถ้ามีแต่วิสัยทัศน์แล้วไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในทางปฏิบัติ ประเทศชาติก็จะพัฒนาแบบไม่มีอนาคต

ประเทศไทยเขียนฝันได้สวยงามและไพเราะเสมอ วิสัยทัศน์ประเทศไทยปี พ.ศ. 2570 เขียนเอาไว้ว่า “คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย มีมิตรไมตรีบนวิถีชีวิตแห่งความพอเพียง ยึดมั่นในวัฒนธรรม ประชาธิปไตย และหลักธรรมาภิบาล การบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานที่ทั่วถึงมีคุณภาพ สังคมมีความปลอดภัยและมั่นคง อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดี เกื้อกูลและเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ระบบการผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน อยู่บนฐานทางเศรษฐกิจที่พึ่งตนเองและแข่งขันได้ในเวทีโลกสามารถอยู่ ได้ในประชาคมภูมิภาคและโลกได้อย่างมีศักดิ์ศรี”

ไพเราะอย่างมากแต่เห็นได้ชัดเลยว่าคนเขียนวิสัยทัศน์อันนี้เป็นคนโลภมาก เพราะเล่นเขียนฝันแบบ ยาวเหยียดเก็บเอาทุกอย่างมาต่อๆกัน ไม่รู้อะไรสำคัญไม่สำคัญ อ่านกว่าจะจบก็เล่นเอาซะเหนื่อยเลย ที่น่ากังวลก็ คือคนที่เขียนคงไม่รู้ว่าวิสัยทัศน์ที่ดี ของแต่ละประเทศควรจะเป็นวิสัยทัศน์ที่แตกต่างและมีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะประเทศ  ประเทศอื่นแม้อยากจะลอกเลียนแบบก็ทำไม่ได้ การเขียนวิสัยทัศน์แบบนี้ ไม่ต้องเรียนหนังสือ ไม่ต้องรู้เรื่องยุทธศาสตร์ ไม่ต้องรู้เรื่องประเทศอื่นๆบนโลกเลย ก็เขียนได้

สีจิ้นผิงบอกความฝันเหมือนใบของเรือ แต่ถ้าไทยเรามีฝันยิบฝันย่อยฝันเยอะขนาดนี้เรือที่ชื่อว่าประเทศไทย คงจะเป็นเรือที่มีใบเรือใบเล็กๆเต็มเรือ เมื่อลมพัดมา เรือคงจะแล่นไปอย่างไร้ทิศทางเคว้งคว้างอย่างที่เคย

สะท้อนให้เห็นปัญหาหลักของไทยก็คือเราไม่มียุทธศาสตร์ประเทศที่ดี ซึ่งเป็น ยุทธศาสตร์ที่เมื่อทุกฝ่ายที่ เกี่ยวข้องอ่านแล้วจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าใครต้องทำอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร และสิ่งที่เราต้องทำนั้นจะไปเสริม หรือสอดรับกับสิ่งที่หน่วยงานอื่นๆต้องทำอย่างไร

ถ้าเป็นภาคเอกชน เวลาไม่มียุทธศาสตร์ที่ดี ผลที่เกิดขึ้นจะกระทบชัดเจนรุนแรง คนที่เป็นเจ้าของจะรู้ได้ทันที ฝ่ายจัดการก็จะรู้ได้ทันทีและต้องแสดงความรับผิดชอบ แต่พอเป็นภาครัฐ ความเป็นเจ้าของขาดความชัดเจน ฝ่ายจัดการซึ่งหมายถึงคณะรัฐมนตรี ผู้บริหารกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ต่างก็ไม่รู้ว่าอะไรคือความรับผิดชอบ ของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น 5  ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ยแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ ต่ำที่สุดใน AEC ปีล่าสุด 2557 เราก็โตไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ต่ำที่สุดอีกแล้ว เคยเห็นรัฐมนตรีหรือข้าราชการหรือเทคโนแครตออกมาแสดงความ รับผิดชอบว่าเขาวางยุทธศาสตร์หรือบริหารผิดพลาดบ้างหรือไม่? หรือเรื่องการส่งออกที่ปีนี้เราส่งออกลดลง ต่อเนื่องมาสองปีแล้ว เคยเห็นใครแอ่นอกออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้างมั้ย?

ที่ไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่พวกเขาไม่มีความรับผิดชอบหรอก แต่เพราะไทยเราไม่มี ยุทธศาสตร์ที่ดีพอที่จะทำให้ฝ่ายบริหารรู้ว่าเขาต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ถ้าประเทศไทยเป็นบริษัทแล้วบริหาร กันแบบนี้เคยคิดกันบ้างมั้ยว่าจะมีฝ่ายบริหาร ฝ่ายวางแผนโดนไล่ออก ไปกี่คนแล้ว ใครบ้าง?

งานที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายวางแผนรวมถึงนักการเมืองของประเทศไทยถนัดที่สุดคือการหาคำอธิบายที่ทำให้ตนเองดูดี ไม่ต้องรับผิด คำอธิบายพวกนี้ก็เช่นเพราะการเมืองแตกแยก เศรษฐกิจโลกไม่ดี เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเราไม่ดี อธิบายเสร็จก็จะวาดฝันให้คนไทยสบายใจว่าปีหน้าจะดีกว่านี้ พวกเราคนไทยก็เชื่อคนง่ายสบายใจกันไป ที่น่า กังวลที่สุดก็คือวันนี้ไทยเรายังไม่รู้ตัวว่าเรากำลังถอยหลังลงคลองเพราะเราขาดยุทธศาสตร์ที่ดี ไม่ใช่เพราะเหตุผล ต่างๆที่ชอบเอามาอ้างกัน เมื่อขาดยุทธศาสตร์ระดับชาติที่ดี ยุทธศาสตร์ระดับรองลงมาเช่นระดับกระทรวง ระดับกรมก็เลยพลอยไม่ดีไปด้วย ไม่ดีไม่พอแต่ซ้ำยังไม่บูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ ทำให้หน่วยราชการไทย ทำงานแบบไม่บูรณาการกันถือเป็นความโชคร้ายซ้ำซ้อน

ลองดูตัวอย่างที่เวียดนามซึ่งประกาศส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็วและเขามีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นตามยุทธศาสตร์ ส่วนเศรษฐกิจของไทยเรา 5 ปีที่ผ่านมานอกจากจะโตน้อยกว่าเขาแล้ว ป่ายังหายไปสูงถึง 5 ล้านไร่ เวียดนามประกาศส่งเสริมการลงทุนใน อุตสาหกรรมไฮเทคที่โลกต้องการซื้อ วันนี้บริษัทระดับโลกจาก เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐ จีน ต่างเข้าไปลงทุน ในเวียดนามและช่วยทำให้การส่งออกเติบโตมากกว่า 15  เปอร์เซ็นต์ในปี 2556 ขณะที่ไทยเราบอกเศรษฐกิจ โลกไม่ดีเราเลยส่งออกติดลบ เหมือนอยู่กันคนละโลก ปีที่แล้ว 2557 การส่งออกของเวียดนามก็จะเติบโตอย่าง ต่อเนื่องอีก ขณะที่ไทยก็จะส่งออกติดลบอย่างต่อเนื่องอีก ทั้งๆที่บีโอไอประกาศว่า การส่งเสริมการลงทุนทำได้ ตามเป้า ทำไมเป็นเช่นนี้อธิบายอย่างไร? บูรณาการกันหรือไม่? เป็นความรับผิดชอบของใคร?

การสร้างรถไฟรางคู่ก็เช่นกัน ประเทศที่มียุทธศาสตร์ที่ดีเขาจะรู้ว่าเขาจะพัฒนาพื้นที่ใกล้เคียงเกี่ยวเนื่องให้เป็น อะไร เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นนิคมอุตสาหกรรม เป็นศูนย์การค้า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญ ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นรัฐบาล จะต้องพยายามเก็บผลประโชน์เอาไว้กับ ภาครัฐให้ได้มากที่สุด เพื่อไปลดภาระจากการลงทุนก่อสร้างรถไฟ บางประเทศเช่น มาเลเซียเขาฉลาดพอที่จะ ออกกฎหมายห้ามการเก็งกำไรที่ดินในเขตที่รัฐบาลกำลังจะลงไปพัฒนา เพราะเขารู้ว่า ถ้าปล่อยให้มีการเก็งกำไร ที่ดินได้จะทำให้ต้นทุนการพัฒนาพื้นที่ตรงนั้นแพงขึ้นไปอีก โอกาสที่จะพัฒนาสำเร็จก็จะน้อยลง ย้อนกลับมา มองไทย แทนที่เราจะถกเถียงกันเรื่องเหล่านี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ เราไม่สนใจแต่กลับมา เถียงกันว่าจะกู้เงินจากในหรือนอกประเทศดี

วันนี้ประเทศไทยมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม บริหารโดยทหารที่ควรจะรู้ว่ายุทธศาสตร์ที่ดีคืออะไร แต่ถ้ายังไม่รีบ เขียนยุทธศาสตร์ให้ดี ไม่วางตำแหน่งประเทศให้ถูกต้องและยังแก้ไขอะไรไม่ได้อีก ยังต้องอ้างว่าเศรษฐกิจโลก ไม่ดีกันอยู่อีก อนาคตประเทศไทยคงจะเหมือนเรือลำน้อยที่ล่องลอยไปอย่างไร้ทิศทางอย่างที่สีจิ้นผิงเปรียบเปรย

[smartslider3 slider="9"]