มุมมองเกษมสันต์ ตอน ช้อปปิ้งวันคนโสดในจีน

0
698

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็น วันคนโสด ที่เกิดขึ้นเพราะวัยรุ่นจีนที่ไร้คู่อิจฉาคนมีคู่ที่ฉลองกันในวันวาเลนไทน์ ก็เลยเลือกวันที่ 11 เดือน 11 เพราะมีเลขหนึ่งยืนโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ถึง 4 ตัว ดูโดดเดี่ยวและเหงาสมกับการเป็นโสดดี

ตอนเริ่มแรกในปี พ.ศ. 2536 นั้นวัยรุ่นจีนที่ยังไม่มีคู่ก็พากันออกไปเที่ยวไปพักผ่อนดูหนังฟังเพลง ทำอะไรตามใจตัวเอง ประสาคนโสด ร้านค้าทั้งหลายก็เริ่มจับจุดได้ว่าการช้อปปิ้งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนโสด ร้านค้าต่างๆก็เลยเริ่มจัด ให้มีการลดราคาในช่วงวันคนโสด

จนถึงปี พ.ศ. 2552 #แจ็คหม่า เจ้าของ #อาลีบาบา เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดังของจีน เกิดปิ๊งไอเดียช้อปปิ้งวันคนโสด ก็เลยจัดให้มีการลดราคาขนานใหญ่ในเว็บไซต์ของเขา ผลก็คือคนทั้งโสดและไม่โสดต่างก็เฝ้ารอการลดราคาของ อาลีบาบาในวันคนโสดและกระหน่ำซื้อกันแบบโลกตะลึง

ทุกปีการลดราคาในเทศกาลคนโสดของอาลีบาบานี้จะทำเพียง 24 ชั่วโมงหลังเที่ยงคืนวันที่ 10 จนถึงนาทีสุดท้ายก่อนเที่ยงคืนวันที่ 11 พศจิกายน แต่ปีนี้มีการลดเพิ่มเติม โดยเริ่มลดราคากันในช่วงวันที่ 1 ถึง 3 พฤศจิกายน แล้วเอายอดมารวมกับยอดขายของวันที่ 11

ยอดขายรวมปี พ.ศ.2563 ของอาลีบาคือ 498,200 ล้านหยวนหรือ 2.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากยอดขายในปี พ.ศ.2562 ที่ทำได้ 268,400 ล้านหยวนหรือ 1.24 ล้านล้านบาท ยอดขายของอาลีบาบาสูงทะลุ 1 ล้านล้านบาทมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 มาแล้ว

คู่แข่งคนสำคัญของอาลีบาบา ไม่ใช่ใครอื่น เป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชื่อดังอีกเจ้าของจีนที่ชื่อ JD.com ซึ่งก่อตั้งโดยริชาร์ด หลิว ในปี พ.ศ.2547 ก่อนจะมาเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี พ.ศ.2557 เพราะเทนเซนต์ ยักษ์ใหญ่ไอทีของจีนซึ่งแพ้อาลีบาบาในสมรภูมิอีคอมเมิร์ซ จึงตัดสินใจเข้ามาซื้อหุ้นของ JD.com และโอนอีคอมเมิร์ซทั้งหมดของตัวเองมาให้ ริชาร์ด หลิวบริหาร

ยอดขายของ JD.com ปีนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะสูงถึง 271,500 ล้านหยวนหรือ 1.25 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว ยอดนี้เป็นยอดขายรวมของวันที่ 1 ถึง 3 และยอดขายในวันที่ 11 เหมือนของอาลีบาบา

สินค้าที่อาลีบาบาเอามาลดราคาขายในวันคนโสดนั้น ไม่ได้มีเฉพาะสินค้าของจีนแต่เป็นสินค้าจากทุกทุมโลกที่ผู้ผลิต เอาไปฝากขายรวมถึงสินค้าไทยและคู่แข่งสงครามการค้าเช่นสหรัฐด้วย ปีนี้มีสินค้ารวมกันมากถึง 250,000 แบรนด์จากทั่วโลก โดยปีนี้มีแบรนด์ใหม่ๆจากต่างประเทศมาเพิ่มอีกกว่า 2,600 แบรนด์ให้ลูกค้ากว่า 800 ล้านคนทั่วโลกเลือกซื้อ

ปีนี้เป็นปีที่พิเศษสำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์ ในจีน คนจีนซึ่งปรกติชอบเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศและชอบช้อปสินค้าแบรนด์เนมเอากลับประเทศ แต่เพราะการระบาดของโควิด – 19 ทำให้คนจีนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ปีนี้คนจีนเลยรู้สึกอัดอั้น อยากช้อปมากเป็นพิเศษ

ถามว่าแล้วคนจีนมีกำลังซื้อหรือ? คำตอบคือมี และมีมากเสียด้วย เพราะไม่ต้องเสียค่าเครื่องบิน โรงแรมในต่างประเทศ ภาพรวมเศรษฐกิจก็แข็งแรง เศรษฐกิจเติบโตติดต่อกันมาสองไตรมาสแล้ว มูลค่าการช้อปในวันคนโสดของทั้ง อาลีบาบาและ JD.com ไม่รวมเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอื่นๆ จึงสูงถึง 3.55 ล้านล้านบาท

สินค้าแบรนด์เนมต่างชาติที่คนจีนชอบช้อปกันในช่วงวันคนโสด ส่วนมากจะเป็นพวกเครื่องสำอาง และอาหารเด็กอ่อน ส่วนพวกสินค้าอิเล็กโทรนิกส์และสมาร์ทโฟน ปีนี้คนจีนหันกลับมาซื้อผลิตภัณฑ์ของจีนเองเพิ่มขึ้นไปอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่ผลจากสงครามการค้าสหรัฐจีน แต่เป็นเพราะคุณภาพผลิตภัณฑ์และการออกแบบของจีนนั้นดีขึ้นจนสามารถแข่งขันกับ แบรนด์ดังในดวงใจของคนจีนเช่นแอปเปิลได้สบายๆ

สินค้าจากสหรัฐที่ยังคงครองใจคนจีนและขายได้ดีในปีนี้คือ อดิดาส ไนกี้และแอปเปิลก็ยังคงเป็นสินค้าที่คนจีนชอบ ส่วนประเทศหลักๆซึ่งคนจีนชอบช้อปออนไลน์ในช่วงนี้คือ ญี่ปุ่น สหรัฐ เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและเยอรมนี

น่าเสียดายที่ไทยเรายังไม่ใช่ประเทศที่คนจีนชอบมาช้อปออนไลน์ ไม่งั้นคงรวยกันทั้งประเทศ

[smartslider3 slider="9"]