ยุทธศาสตร์สู่ AEC ตอนที่ 9 เดินผิดทางจะไปถูกได้อย่างไร

0
513

คราวที่แล้ว ผมทิ้งท้ายเรื่องยุทธศาสตร์กับการจัดโอลิมปิคไว้ว่าจะมาต่อกันเรื่อง “ยุทธศาสตร์ที่จะทำให้การเป็นเจ้าภาพนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด”

 “ยุทธศาสตร์การคิด” เป็นเจ้าภาพโอลิมปิคแบบที่สองที่ผมอยากชวนให้คิดก็คือ “ยุทธศาสตร์ที่จะทำให้การเป็นเจ้าภาพนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด” ถ้าเมืองใดเมืองหนึ่งในประเทศไทยต้องการเป็นเจ้าภาพในการเสนอตัวจัดโอลิมปิค ต้องคิดให้มี “ยุทธศาสตร์” ที่แตกต่าง คือต้องคิดก่อนว่า เมืองของเรานั้น จะเติบโตไปอย่างไร วางแผนพัฒนาเมืองไปในอนาคต 15 – 30 ปีข้างหน้าเลยว่า เมืองจะโตแบบไหน ธุรกิจจะเติบโตกันอย่างไร อยู่กันตรงไหน ผู้คนจะพักอาศัยกันตรงไหน สนามกีฬาสำหรับคนเมืองนี้อยู่ตรงไหน ถนนหนทาง สิ่งแวดล้อมจะจัดการอย่างไร คือต้องมี “แผนพัฒนาเมือง” สำหรับคนของตัวเองให้เรียบร้อย ที่สำคัญแผนพัฒนาเมืองดังกล่าวต้องสอดคล้องและเป็นส่วนหนึ่งของ “ยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ”

แล้วเอาแผนที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิค มาเป็น “ตัวเร่ง” ในการพัฒนาเมืองตาม “แผน” ที่ว่านั้น คือจาก 15-30 ปี อาจจะร่นให้เร็วขึ้นเหลือ 8-10 ปี ประเทศก็จะได้เมืองใหม่ที่เร็วขึ้น ต้นทุนบางส่วนถูกชดเชยไปจากกำไรของการจัดโอลิมปิค

ที่สำคัญยังเป็นการประชาสัมพันธ์เมืองของเราให้คนทั่วโลกรู้จัก เพราะขณะที่มีการนำเสนอความพร้อมของประเทศในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ข่าวทั่วโลกก็จะพูดถึงความพร้อมของประเทศเรา และหากหน่วยงานต่างๆของประเทศรู้จักการทำงานแบบบูรณาการซึ่งกันและกัน ช่วยกันทำการประชาสัมพันธ์ประเทศไปพร้อมๆกัน ประเทศก็จะได้การสร้างภาพลักษณ์เป็นของแถมที่มีคุณค่า

ถ้า “คิดแบบมียุทธศาสตร์” แบบนี้ ท่านผู้อ่านคงมองเห็นภาพแล้วนะครับว่าแนวคิดในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคนั้นมีเหตุมีผลและมีความเป็นไปได้ และมีประโยชน์อย่างไร

ลอนดอน ก็ “คิดแบบมียุทธศาสตร์” เช่นกันครับ เขามีแผนที่จะพัฒนา “ลอนดอนฝั่งตะวันออก” ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมเก่ามาพัฒนาให้เป็นเมืองใหม่ คือยังไงก็ต้องพัฒนาพื้นที่ตรงนี้อยู่แล้ว ยังไงก็ต้องลงทุนอยู่แล้ว แต่เอาการเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิค เป็นตัวเร่งแผนนี้ให้เป็นจริงและทำให้การลงทุนตรงนี้คุ้มทุนเร็วขึ้น

ท่านที่ติดตามข่าวก็คงจะรู้แล้วว่า แม้ขณะที่การแข่งขันยังไม่เริ่มขึ้นแต่สนามต่างๆ รวมถึงหอพักนักกีฬาของเขา ต่างมีคนจับจองเตรียมใช้ประโยชน์หลังจบการแข่งขันกันแล้ว

ผมเลยอยากฝากท่านๆที่บริหารประเทศอยู่ในเวลานี้นะครับว่า เวลาคิดอะไรก็ตาม ต้อง “คิดให้เป็นยุทธศาสตร์” นะครับ เพราะไทยเรามีทรัพยากรค่อนข้างจำกัด ประโยชน์สูงสุดจะได้เกิดกับประเทศเราครับ

ลองมาดูข่าวที่บอก ไทยพร้อมเสนอตัวเป็น เจ้าภาพจัดเวิล์ดเอ็กซ์โปในปี 2020 ที่ “อยุธยา” โดยเตรียมงบประมาณมหาศาลและเตรียมจะผลักดันเรื่องนี้ให้เป็น “วาระแห่งชาติ” กันเลยทีเดียว 

ท่านผู้อ่านคิดว่าคนที่เสนอเขามี “ยุทธศาสตร์การคิด” อย่างไรครับ?

อาจจะยากซักหน่อยนะครับ ผมบอกใบ้จากเนื้อข่าวประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการเสนอตัวนี้ หน่อยก็ได้ครับว่า เขาบอกว่า เราพร้อมด้านโครงข่ายคมนาคม สนามบินนานาชาติ ยุทธศาสตร์ที่ตั้งของประเทศไทย และ “ความพร้อมของรัฐบาลในการสร้างทางระบายน้ำขนาดใหญ่สุดของประเทศ”

สามข้อแรกนั้นก็งงแบบเบาๆนะครับ “เราพร้อมด้านโครงข่ายคมนาคม” อย่าว่าแต่จัดเวิล์ดเอ็กซ์โป เลยครับ หยุดยาวติดกันสามวัน ถนนวิ่งผ่านเส้นนั้นก็แทบอัมพาต กันอยู่แล้ว

“เราพร้อมด้านสนามบินนานาชาติ” อ้าวที่ข่าวบอกว่าสนามบินเต็มแล้ว ต้องขยายด่วน และข่าวรันเวย์พังอย่างที่หาสาเหตุไม่เจอ ทำเอาเครื่องดีเลย์กันจมไปหมด นี่หมายถึง “สนามบินนานาชาติ” เดียวกันหรือเปล่าครับ? หรือเรามีสนามบินนานาชาติแห่งใหม่แล้วผมตกข่าวครับ?

เรื่องเรา “พร้อมด้านยุทธศาสตร์ที่ตั้งของประเทศไทย” อันนี้ เป็นความพร้อม “นิรันดร์กาล” ของประเทศไทย เสนอตัวอะไรก็จะเอาข้อนี้เป็นข้ออ้าง ผมไม่ต้องวิจารณ์ท่านผู้อ่านคงทราบดีว่าเราพร้อมจริงหรือไม่?

แต่เรื่องที่ คณะกรรมการตัดสินเรื่องนี้คง “ตื่นเต้น” เป็นพิเศษ ก็คือ “ความพร้อมของรัฐบาลในการสร้างทางระบายน้ำขนาดใหญ่สุดของประเทศ”

แปลว่าอะไรครับ ผมจะลองแปลไทยเป็นไทยดู แปลอย่างนี้ได้มั้ยครับ

“……พื้นที่ตรงที่ประเทศไทยกำลังนำเสนอให้เป็นสถานที่จัดเวิล์ดเอ็กโป นี่แม้จะเป็นพื้นที่ ที่เคยถูกน้ำท่วมขนาดหนัก ผู้คนเดือดร้อน นิคมอุตสาหกรรมต่างๆจมน้ำกันจนดังไปทั่วโลก แต่ประเทศไทยก็มั่นใจจะนำเสนอพื้นที่ตรงนี้ครับ เพราะเรากำลังสร้างทางระบายน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพื่อป้องกันไม่ให้ตรงนี้น้ำท่วมครับ…ขอคณะกรรมการได้โปรดมั่นใจและตัดสินให้ประเทศไทยได้จัดงานนี้ที่อยุธยาด้วยนะครับ…”

เราเลือก “อยุธยา” เป็นสถานที่จัด เวิล์ดเอ็กซ์โป โดยไม่มี “แผนพัฒนาเมือง” วางไว้ล่วงหน้าก่อนก็ดูจะงงงง อยู่แล้ว แต่นี่เล่นเลือกเอาศูนย์กลางน้ำท่วมใหญ่ของประเทศไปเสนอตัวจัดงาน และก็บอกว่าเราพร้อมเรื่องการสร้างทางระบายน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศด้วย นี่ งงจริงๆ “งงแบบไม่มียุทธศาสตร์” เลยครับ

[smartslider3 slider="9"]