เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนมหาเธร์ไปแล้ว สำหรับอดีตนายกฯนาจิ๊บ ราซัค เพราะเมื่อตอนบ่ายๆวันอังคารที่ผ่านมา หน่วย ปราบปรามคอรัปชั่นของมาเลเซียได้บุกเข้าไปจับกุมตัวนาจิ๊บถึงบ้านข้อหาคอรัปชั่นเงินกองทุน 1 MDB ขั้นตอนต่อไปก็คงจะส่งตัวขึ้นศาลเพื่อตัดสิน ซึ่งคงจะจบลงด้วยการติดคุกยาวๆอย่างแน่นอน
กองทุน 1 MDB ซึ่งเป็นตัวย่อมาจาก 1 Malaysia Development Berhad คือกองทุนที่ถูกตั้งมาเพื่อการลงทุนในโครงการต่างๆ ตามแผนการปฏิรูปประเทศรอบที่สองที่เรียก “1 MALAYSIA” ซึ่งเป็นการปฏิรูปประเทศหลังนาจิ๊บ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2542
การปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ 1 MALAYSIA นั้น ความจริงเป็นการปฏิรูปต่อเนื่องจาก “วิสัยทัศน์ 2020” ของ ดร. มหาเธร์ ที่เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยตั้งเป้าจะให้มาเลเซียเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี พ.ศ. 2563 แต่เมื่อถึงเวลาที่นาจิ๊บเข้ารับตำแหน่งนายกฯ การเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียในช่วง 20 ปีนั้นแม้ว่าจะสูงมากกว่าหลายๆประเทศใน AEC รวมถึงสูงกว่าของไทยนั้น แต่ก็ยังไม่สูงตามที่ต้องการ ดังนั้นนาจิ๊บจึงต้องประกาศปฏิรูปประเทศอีกรอบเพื่อให้ มาเลเซียสามารถยกระดับขึ้นเป็นประเทศพัฒนาแล้วตามแผนเดิมของดร.มหาเธร์ ซึ่งตอนนั้นเขาทั้งสองคนยังไม่ทะเลาะ กันและแนวคิดของดร.มหาเธร์ก็ยังมีอิทธิพลต่อประเทศอยู่มาก
เมื่อการปฏิรูปเดินหน้าไป ก็เริ่มมีข่าวลือกันหนาหูว่ากองทุน 1 MDB นั้นขาดทุนนับหลักแสนล้านบาทและมีการทุจริต เงินกองทุนนับหมื่นล้านบาท แต่นาจิ๊บและรัฐบาลก็ปฏิเสธข่าวดังกล่าวมาโดยตลอด สื่อมวลชนในมาเลเซียจึงเริ่มขุดคุ้ย มากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้พบว่ามีเงินไหลเข้าบัญชีส่วนตัวของนาจิ๊บมากกว่าสองหมื่นล้านบาท และมีหลักฐานการ ใช้เงินอย่างสุดฟุ่มเฟือยของลูกติดภรรยานาจิ๊บ ทั้งเอาไปเที่ยวอย่างสุดหรูกับเพื่อนและเอาไปลงทุนทำหนังกับฮอลลีวูด
ถ้ามีใครวิจารณ์เรื่องนี้ นาจิ๊บก็จะจัดการแบบเด็ดขาด อัยการสูงสุดทำท่าจะขุดคุ้ยความจริงก็โดนปลดทันที ลูกชาย ดร. มหาเธร์วิจารณ์เรื่องนี้ก็โดนปลดจากตำแหน่ง แม้แต่ตัว ดร.มหาเธร์เมื่อวิจารณ์เรื่องนี้ก็โดนปลด ปลดกันจนกระทั่งใน รัฐบาลเหลือแต่คนที่เข้าข้างนาจิ๊บหรือคนที่ไม่กล้าวิจารณ์เรื่องนี้
เมื่อประชาชนรวมตัวกันชุมนุมคัดค้านในชื่อ “เบอร์เซะ” นาจิ๊บก็ควบคุมการชุมนุมอย่างเข้มงวด แม้จะชุมนุมกันหลายครั้งหลายหนก็ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ขนาด ดร.มหาเธร์ซึ่งตอนเป็นนายกฯ เองก็ควบคุมการชุมนุมอย่างเข้มงวดต้องออกโรงมาร่วมชุมนุมกลางถนนกับประชาชนด้วยตัวเอง ก็ยังไม่สามารถทำอะไรนาจิ๊บได้
การระดมทุนนับแสนล้านบาทของ 1 MDB นั้นเริ่มต้นที่สหรัฐฯ และมีการโอนบัญชีผ่านไปในหลายประเทศ ประเทศต่างๆ ที่เงินถูกโอนผ่านจึงเริ่มตรวจสอบว่ามีการทุจริตกันตอนไหน แม้ว่าสิงคโปร์จะจับนายแบงค์ติดคุกไปหลายคนแล้ว แม้ว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐจะตรวจสอบเส้นทางการเงินจนพบว่ามีเงินไหลเข้าบัญชีส่วนตัวของคนๆ หนึ่งเป็นจำนวน 24,000 ล้านบาทเท่ากันเป๊ะกับที่มีข่าวลือกันมาตลอด แต่ไม่กล้าประกาศชื่อออกมาชัดๆว่าเป็นของนาจิ๊บ แค่ประกาศว่าเป็นบัญชีส่วนตัวของข้าราชการเบอร์หนึ่งของมาเลเซีย แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่สามารถทำให้เก้าอี้ของนาจิ๊บสั่นคลอน
ประเทศทำท่าจะถึงทางตัน เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมปีนี้ ดร.มหาเธร์จึงตัดสินใจทำสิ่งที่นาจิ๊บและ โลกคิดไม่ถึง ด้วยการเดินเข้าคุกไปหา อันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกฯ ที่เขาเองเป็นคนจับติดคุกครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อขอโทษและขอให้อันวาร์มาร่วมมือกับเขาเพื่อเอาชนะนาจิ๊บในสนามเลือกตั้ง ซึ่งอันวาร์ก็ทำในสิ่งที่โลกคาดไม่ถึงเช่นกัน คือให้อภัย ดร.มหาเธร์ และให้สมัครพรรคพวกของเขาที่อยู่นอกคุกร่วมมืออย่างเต็มที่ จน ดร.มหาเธร์ชนะการเลือกตั้ง ได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง
เพียงไม่นานหลังจากได้อำนาจกลับมา ดร.มหาเธร์ก็ลงมือทันที และส่งให้นาจิ๊บเข้าไปเตรียมฉลองวันเกิดครบรอบ 65 ปีในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ในคุกสมใจคนมาเลเซียทั้งประเทศ