ขณะที่เมืองไทยตื่นเต้นกันว่าเรากำลังจะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ วันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ชื่อ “บ่อเต็น” 1 ใน 10 เขตของ สปป.ลาว ซึ่งเริมเปิดดำเนินการแล้วตั้งแต่วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา
การเดินทางมาที่นี่เราสามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่เชียงราย แล้วนั่งรถต่อไปออกประเทศไทยที่ด่านชายแดนเชียงของ หลังจากนั้นก็นั่งรถต่อไปอีกไม่ถึง 230 กิโลเมตรก็จะถึง แต่ถนนส่วนใหญ่เป็นถนนที่ลดเลี้ยวอยู่บนภูเขา จึงทำความเร็ว ไม่ได้มากนัก เราอาจจะต้องนั่งรถนาน 4 – 5 ชั่วโมง แต่ความงดงามของต้นไม้และภูเขาสองข้างทาง ช่วยทำให้การเดินทาง เพลิดเพลินดีครับ หรือถ้าไม่อยากนั่งรถจะนั่งเครื่องบินก็มาลงที่เวียงจันท์และต่อเครื่องมาลงที่หลวงน้ำทาก็ได้ นั่งรถอีก ไม่ถึงชั่วโมงก็จะถึงบ่อเต็น
บ่อเต็นนั้นตั้งอยู่ติดกับชายแดนจีน ทางด้านมณฑลยูนนานซึ่งจีนกำลังวางแผนจะให้เป็นศูนย์กลางรถไฟของประเทศ เจ้าของบ่อเต็นชื่อ “โจคุน” เป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวของสิบสองปันนา เขาจึงตั้งใจจะทำให้บ่อเต็น เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแหล่งเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวสิบสองปันนาปีละกว่า 12 ล้านคน ซึ่งนอกจากชอบช็อปปิ้งเหมือนนักท่องเที่ยวไทยแล้วยังมีอีก 3 อย่างที่นักท่องเที่ยวจีนชอบมากเป็นพิเศษคือ อาหารทะเล ขี่ช้างและคาบาเร่ต์โชว์แบบทิฟฟานี่หรืออัลคาซ่าที่พัทยา
สตีเฟ่น ชุง คนสิงคโปร์ซึ่งเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องการสร้างแรงดึงดูดการท่องเที่ยวจึงได้ไปดึงคุณพิทยสัณห์ เดชประสิทธิ์ และคุณภูมิพัฒน์ พัฒนาพงศ์ ให้มาจัดการเรื่องคาบาเร่ต์โชว์ที่นี่ ทีมงานจึงได้ขน “คนไทย” ซึ่งมีฝีมือด้านการออกแบบฉาก แสง สี เสียงและ ชุดมาร่วมๆ 30 คน มีเนรมิตตึกเก่าแห่งหนึ่งให้เป็นโรงคาบาเรต์ระดับสากล ผมมีโอกาสเห็นตั้งแต่ตอนเริ่มปรับปรุงและ ตอนเสร็จสมบูรณ์ ต้องบอกว่านอกจากจะเสร็จรวดเร็วอย่างน่าอะเมซิ่งแล้ว ความยิ่งใหญ่ งดงามตระการตาของฉากและ ระบบแสงสีเสียงและชุดนั้น ต้องทำให้คนที่เคยดูคาบาเร่ต์โชว์ในไทยถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียวว่าฝีมือคนไทยนี่ไม่ ธรรมดาจริงๆ
ที่น่าอะเมซิ่งไปกว่านั้นคือ “นักแสดง” ครับ ทีมงานได้ไปชวนนักแสดงกว่า 20 มาร่วมกันฝึกซ้อมตั้งแต่ต้นเดือน พฤศจิกายน ปี 2557 ที่ผ่านมา ซ้อมกันอย่างหนักทุกวันวันละ 5 ชั่วโมงเป็นเวลาสามเดือนครึ่ง ผมและทีมงานเป็น คณะแรกที่ได้ชมและบันทึกเทปการซ้อมเต็มรูปแบบครั้งสุดท้ายก่อนจะเปิดแสดงจริง ต้องสารภาพอย่างไม่อายครับว่า ตลอดเวลาที่นั่งดูนั้นผมน้ำตาไหลตลอดเวลา น้ำตามันไหลออกมาเองครับด้วยความภาคภูมิใจ เพราะเห็นนักแสดงทุกคน ออกมาแสดงด้วยความงามทั้งหน้าตา ชุดที่อลังการณ์และการแสดงที่รู้สึกได้ทันทีว่าพวกเขาทุ่มเท “เกินร้อย”
1 ชั่วโมง 5 นาทีกับ 14 ชุดการแสดงที่มีครบทุกรสชาดทำให้ทุกคนที่มาร่วมชมการแสดงพร้อมผมนั้นรู้สึกว่า เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนและปรบมือเสียงดังยาวให้นักแสดงและทีมงานเบื้องหลังทุกคน
พอจบการแสดงผมถึงกับอดใจไม่ได้ที่จะเดินไปขอจับมือกับทีมงานเบื้องหลังและนักแสดงทุกคน พร้อมบอกว่าพวกเขา กำลังจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยและกำลังจะแสดงให้ทุกคนที่มีโอกาสมาชมการแสดงของพวกเขารู้ว่าคนไทย นั้น “เลิศ” ขนาดไหน ผมภูมิใจในตัวพวกเขาทุกคนและขอบคุณทุกๆ คนแทนคนไทยด้วย
จำชื่อ “เดอะควีน” ชื่อของคาบาเร่ต์คณะนี้ให้ดีนะครับ เพราะชื่อนี้กำลังจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับพวกเราคนไทย ทุกคน ขอบคุณ “เดอะควีน” อะเมซิ่งคนไทยในบ่อเต็นครับ