Amazing AEC – ดื่มกินแบบคนเมียนมา

0
532

มีโอกาสเข้าร่วมสัมมนา “ผ่าโอกาสธุรกิจ SMEs ไทยบุกเมียนมา” จัดโดยครอบครัวข่าว 3 และบีอีซี-เทโร ผมได้ข้อมูล ที่น่าอะเมซิ่งซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ไปทำมาค้าขายที่เมียนมาแล้วประสบความสำเร็จจริงมาเล่าให้ฟังครับ

อย่างแรกเลยที่เราต้องเปลี่ยนก่อนจะไปบุกเมียนมาก็คือคนเมียนมานั้นฉลาดกว่าที่เราเห็นหรือเราคิด หากใครคิดจะไปทำธุรกิจที่เมียนมาแต่ประมาทว่าเขาไม่ฉลาดหรือไม่เก่งล่ะก็พลาดทุกราย รัฐบาลเมียนมาก็เหมือนกัน บางคนอาจจะคิดว่าเป็นรัฐบาลทหาร ไม่น่าจะฉลาดคิดทันเอกชน แต่เมื่อดูจากการบริหารโครงการใหญ่ๆหลายๆโครงการที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ารัฐบาลเมียนมาเขาเลือกที่จะจับมือกับคนที่ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศเขาเสมอ ถ้าโครงการไหนดูแล้วประเทศเขาได้ประโยชน์น้อย รัฐบาลเมียนมาเขาจะชะลอหรือเปลี่ยนผู้จะมาร่วมบริหารโครงการทันที

สอง คนเมียนมานั้นมีสตางค์มากกว่าที่เราคิดเพราะเขาปิดประเทศมานาน ตอนปิดประเทศนั้นค่าเงินจ๊าด ก็ผันผวนเสียเหลือเกิน ข้าวของดีๆ ก็ไม่มีให้ซื้อหา คนเมียนมาสมัยนั้นจึงมีพฤติกรรมเก็บเงินเป็นหลักไม่พยายามใช้จ่าย การเก็บเงิน คนเมียนมามักจะเก็บไว้ที่บ้านบางคนเก็บเงินจนเต็มเป็นห้องๆ กันเลยทีเดียว ถ้าเป็นชนชั้นนำที่มีโอกาสมากกว่าคนทั่วไป ก็จะยิ่งมีเงินสะสมมากมาย ใครหลงไปดูรายได้เฉลี่ยต่อหัวที่ฝรั่งคำนวณเอาไว้ที่ไม่ถึงสามหมื่นบาทต่อคนต่อปีแล้วคิดว่าคนเมียนมาไม่มีกำลังซื้อ ผมขอให้คิดใหม่นะครับก่อนจะพลาดโอกาสบุกเมียนมา

ตอนที่ไปเมียนมาครั้งล่าสุด คุณทวีศักดิ์ วิษณุโยธิน ซึ่งตอนนี้กำลังวางแผนจะจัดงาน Myanmar International Franchise & SME Expo ในวันที่ 13-15 เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ได้พาผมไปทัวร์ร้านอาหารหรูๆ และแหล่งบันเทิง สำหรับคนชั้นกลางในกรุงหยั่นโกว่น ต้องยอมรับว่าอะเมซิ่งจริงๆ ครับ เพราะนึกไม่ถึงครับว่าเขาจะมีอะไรที่ดีๆ หรูหราไม่แพ้กรุงเทพฯเลยทีเดียว

สาม คนเมียนมานั้นเขาชอบของดีราคายุติธรรม คุณภาพต้องดี คุณภาพต้องมาก่อน แต่ราคาต้องเหมาะสมนะครับ ถ้าตั้งราคาขายสูงเกินไปคนเมียนมาจะรู้สึกว่าเขาถูกเอาเปรียบ ว่าไปแล้วก็เหมือนคนไทยเรานี่แหล่ะครับ เรื่องของแฟชั่นการแต่งเนื้อแต่งตัวนั้น คุณปณิธาน ปวโรฬารวิทยา บอกว่าคนเมียนมาเขามองมาที่แฟชั่นของคนไทยอยู่ครับ เพราะฉะนั้นอะไรที่คนไทยนิยมใช้นิยมแต่งก็มีโอกาสสูงจะขายดีที่นั่นครับ แม้ว่าปัจจุบันการแต่งกายของคนเมียนมาส่วนมากจะยังเป็นชุดประจำชาติอยู่มาก แต่เมื่อเศรษฐกิจพัฒนามากขึ้น วิถีชีวิตของเขาก็จะเปลี่ยนแปลงมากขึ้น การแต่งกายก็จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตามแนวของไทยเรามากขึ้น

ส่วนเรื่องอาหารการกินและเครื่องดื่มนั้น คนเมียนมาชอบอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสหวานมากกว่าคนไทยนะครับ จะขายอะไรก็ขอให้หวานนำเอาไว้หน่อย บางคนชอบทานเผ็ดเหมือนคนไทย แต่ที่คนเมียนมาชอบเหมือนๆ กันแทบทุกคนคือความมันจากน้ำมันครับ อาหารแทบทุกอย่างมักจะเต็มไปด้วยน้ำมัน ถ้าคนเมียนมาทำอาหารเลี้ยง เราแล้วเขาใส่น้ำมันน้อย จะถูกต่อว่าว่าเป็นคนขี้เหนียวใจแคบทันที เพราะตั้งแต่อดีตมาแล้วสมัยที่ยังไม่มีตู้เย็น คนเมียนมาเขานิยม ใช้น้ำมันเป็นเครื่องมือในการถนอมอาหาร ดังนั้นการชอบทานอาหารที่มีน้ำมันเยอะๆ ยังเป็นพฤติกรรมที่เคยชินมาจนถึงปัจจุบัน

ที่น่าอะเมซิ่งมากที่สุดที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนก็คือคนเมียนมาเป็นคนทานจุมาก คุณกริช อึ้งวิฑูรย์สถิตย์ เล่าให้ผมฟังแบบขำๆ ว่าเขาเคยเปิดร้านหมูกระทะที่กรุงหยั่นโกว่น ปรากฎว่าทันทีที่เปิดก็ได้รับความนิยมอย่างมาก คนเมียนมามารอต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอทาน แต่ลูกค้ายิ่งมากันเยอะคุณกริชยิ่งขาดทุน สุดท้ายทนขาดทุนไม่ไหวเลยตัดสินใจปิดร้าน พอถามว่าทำไม คุณกริชตอบแบบขำๆ ว่าคนเมียนมาทานจุจริงๆ ครับ ตั้งราคาแพงไปก็ดูไม่เป็นธรรม ตั้งราคาถูกหน่อยคนเมียนมาก็เล่นทานกันซะระเบิดเถิดเทิง คุมต้นทุนเอาไม่อยู่ถอยดีกว่า พอมีบทเรียนตอนทำน้ำหวานขายคุณกริชนอกจากจะทำให้มีรสหวานมากกว่าปกติแล้วยังใช้ขนาดขวดที่ใหญ่ขึ้น เอาให้ดื่มแบบเต็มที่อิ่มน้ำกันไปเลยทีเดียว ผลปรากฎว่าขายดีครับ

รู้ข้อมูลที่น่ารักแบบอะเมซิ่งของคนเมียนมามากขนาดนี้แล้ว พร้อมจะไปบุกเมียนมากันหรือยังครับ?

[smartslider3 slider="9"]