Amazing AEC – ด่อว์อองซานซูจิ

0
546

วันศุกร์ที่ 19  มิถุนายนที่จะถึงนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของด่อว์อองซานซูจิ ซึ่งจะทำให้เธอมีอายุครบ 70 ปีเต็ม ผมเลยจะขอเขียนถึงบางมุมของเธอที่ผมคิดว่าน่าอะเมซิ่ง

ที่ผมเรียกนางอองซานซูจี ว่าด่อว์อองซานซูจิ ก็เพราะการออกเสียงคำในภาษาเมียนมา (อ่านว่าเมียนม่า) นั้นคนเมียนมา เขาจะออกเสียงกันสั้นๆเสียงหนัก อองซานซูจีจึงกลายเป็นอองซานซูจิ ส่วนคำว่าด่อว์นั้นคนเมียนมาใช้เรียกหน้าชื่อผู้หญิง ที่เราต้องการจะยกย่อง ดังนั้นการเรียกนางอองซานซูจี คนเมียนมาจึงเรียกว่า ด่อว์อองซานซูจิ ตอนที่เธอมาเยี่ยมแรงงาน เมียนมาที่มหาชัยเมื่อสามปีที่แล้ว คนงานเหล่านั้นต่างก็ตะโกนเรียกเธอว่า “ด่อว์ซูๆๆ”

ชื่อภาษาอังกฤษของเธอที่เขียนว่า Aung San Suu Kyi  อาจทำให้บางคนอยากจะเรียกเธอว่า อองซานซูค่ะยี ซึ่งนั่นเป็น การอ่านตามตัวสะกดภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเราศึกษาการออกเสียงของภาษาเมียนมาสักหน่อยเราจะรู้ว่า “ KY” ในภาษา เมียนมานั้นเขาออกเป็นเสียงตัว “จอ” ดังนั้นแม้จะเขียน “Kyi” แต่ก็ออกเสียงว่า “จี” น่ะถูกต้องแล้ว ดังนั้นถ้าคนเมียนมา มาชวนเราไปเที่ยวเมือง “โตโจ” ให้เข้าใจให้ตรงกันว่าเขากำลังชวนเราไปเที่ยวเมือง Tokyo หรือโตเกียวนะครับ ไม่ใช่เมืองใหม่ที่ไหน

เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ด่อว์อองซานซูจิได้รับการเชิญจากประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง ให้ไปเยือนอย่างเป็นทางการ ซึ่งน้อยครั้งนักที่เราจะเห็นจีนเขาเชิญฝ่ายค้านไปเยือนและต้อนรับประดุจเป็นผู้นำประเทศ การที่จีนให้เกียรติ ด่อว์อองซานซูจิขนาดนี้ก็แปลว่าจีนกำลังจะเรียกร้องความสนใจจากรัฐบาลเมียนมาอย่างหนัก เพราะดูเหมือนว่า รัฐบาลเมียนมาซึ่งเคยเทใจให้กับจีนประเทศเดียวมานานโดยเฉพาะในช่วงโดนนานาชาติคว่ำบาตร นั้นตอนนี้เริ่มมีใจ ให้กับประเทศอื่นๆมากขึ้นโดยเฉพาะญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ

การเลือกเมืองที่ไปเยือนก็น่าสนใจไม่น้อยเพราะด่อว์อองซานซูจิไปเยือนปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้และคุนหมิง สองเมืองแรกนั้นเป็น ที่เข้าใจได้ว่าเป็นเมืองหลวงและเมืองเศรษฐกิจหลัก ส่วนเมืองคุนหมิงนั้นก็เป็นอย่างที่ผมเขียนไว้ในคอลัมน์นี้หลายครั้ง แล้วว่าจากนี้เป็นต้นไปคุนหมิงจะอยู่ในโฟกัสของโลกเพราะจีนได้มียุทธศาสตร์ชัดเจนที่จะใช้คุนหมิงเป็นจุดเชื่อมโยงจีนกับ AEC ของเรานั่นเอง

การแถลงผลของการไปเยือนก็ออกมาในแนวทางสร้างสรรค์และเป็นผลดีกับทั้งสองประเทศ นี่คือเรื่องที่ผมว่าน่าอะเมซิ่ง ที่สุดของผู้หญิงคนนี้ เพราะไม่ว่าเธอจะเผชิญกับความยากลำบากเพียงใดกับการดำเนินการทางการเมืองของเธอภายในประเทศ แม้เธอจะโดนกักบริเวณมายาวนานกว่า 24  ปี แต่ทุกครั้งที่เธอมีโอกาสเยือนต่างประเทศหรือพูดกับสื่อมวลชน ต่างประเทศ ซึ่งเธอสามารถพูดอะไรก็ได้ แต่ด่อว์อองซานซูจินั้นมักจะพูดในเชิงสร้างสรรค์ให้กับเมียนมาเสมอ

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็ตอนปี 2555  ที่เธอเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกหลังรัฐบาลเมียนมาเลิกการกักบริเวณเธอ ด่อว์อองซานซูจิได้มาเมืองไทยและได้เข้าร่วมประชุมกับ  World Economic Forum ที่เชิญนักธุรกิจทั่วโลกมาประชุมกันที่กรุงเทพ เมื่อโดนนักธุรกิจถามว่าเมียนมายังเป็นประเทศเผด็จการทหารและยังมีคอร์รัปชั่นอยู่อีกเยอะ ทำไมถึงได้คิดมาเชิญชวนพวกเขาไปลงทุน คำถามนั้นเป็นคำถามที่ถามกันสดๆและเครือข่ายโทรทัศน์ระดับโลกเช่น CNN ก็กำลังถ่ายทอดสด วินาทีทองแบบนั้นถ้าเธอจะคิดตอบแบบเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าประเทศแบบนักการเมืองทั่วๆไป เธอก็สามารถ ทำได้ แต่เธอกลับตอบว่า “ ใช่ประเทศเรายังเป็นเผด็จการทหาร ประเทศเรายังมีคอร์รัปชั่นอยู่เยอะ และนั่นคือสาเหตุที่เราต้องการธุรกิจต่างชาติเข้าไปลงทุนให้มากขึ้นในเมียนมา จะได้ช่วยกันพัฒนาประชาธิปไตย ช่วยกันแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น และทุกคนจะได้ร่ำรวยรุ่งเรืองไปพร้อมๆกัน…”  น่าอะเมซิ่งไหมครับผู้หญิงคนนี้

[smartslider3 slider="9"]