ยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจมากๆจากหนังสือ “10 นาทีมหัศจรรย์ยามเช้า สร้างลูกรักการอ่าน” เขียนโดยคนเกาหลีใต้ Nam Mi-Young และแปลโดยคุณกาญจนา ประสพเนตร หนังสือเพื่อสร้างเด็กคุณภาพที่คุณครูและคุณพ่อคุณแม่ควรอ่าน
คุณพ่อคุณแม่ควรจะอ่านหนังสือให้ลูกฟังเพราะการอ่านหนังสือให้ลูกฟังไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความทรงจำที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลูกฝังให้ลูกรู้จักอ่านหนังสือ เพื่อจะได้นำไปปรับใช้ในการเรียนที่โรงเรียนให้ดีขึ้น เมื่อเข้าเรียนลูกจะต้องมีสมาธิต้องนั่งเงียบๆฟังครูสอนในห้อง หากไม่สามารถปรับตัวได้ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนของตัวเขาเอง เด็กที่เคยได้ รับการฝึกฝนด้วยการฟังเสียงพ่อแม่อ่านหนังสือให้ฟังที่บ้านก็จะมีสมาธิและตั้งใจฟังคำสอนของครูดีกว่าเด็กคนอื่นๆ
ถ้าลูกไม่ชอบการอ่านหนังสือ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องหรือมีความทุกข์กับการอ่านหนังสือ วิธีแก้ก็คืออ่านหนังสือให้ลูกฟัง ถ้าเนื้อหาหนังสือเล่มนั้นสูงกว่าวัย ลูกก็จะเอียงคอคิดหรืออาจจะตั้งคำถาม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะอธิบายให้ลูกเข้าใจ การอ่านให้ฟังสลับกับการถามตอบนี้เป็นวิธีการสอนให้ลูกรู้จักการอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดีระหว่างการอ่านให้ลูกฟัง เขาจะค่อยๆสะสมคำศัพท์ใหม่ๆไว้ในคลังสมองเขา เป็นการเสริมสร้างให้ลูกมีพัฒนาการในการอ่านสูงขึ้น อีกหน่อยลูก อาจจะอ่านให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง ซึ่งจะทำให้จิตใจของทั้งสองฝ่ายสื่อถึงกันได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ส่วนคุณครูที่ดีก็จะต้องเป็นคุณครูที่ชอบอ่านหนังสือให้เด็กๆฟัง ครูชั้นประถมต้นจะต้องทำตัวให้เคยชินกับการอ่านหนัง สือให้เด็กนักเรียนฟังเพราะวัยนี้เป็นรากฐานของการอ่านหนังสือของเด็ก เมื่อคุณครูอ่านหนังสือให้เด็กฟังพวกเขาจะประทับใจต่อการอ่านหนังสือและจะรู้สึกว่าโรงเรียนคือสถานที่ซึ่งมีคนเล่านิทานให้ฟังไม่ใช่สถานที่ซึ่งต้องมานั่งเรียนหนังสือ อย่างเคร่งครียด โรงเรียนจึงเป็นสถานที่ซึ่งมีความสุขและจะทำให้เด็กๆอยากไปโรงเรียนมากขึ้น
เกาหลีใต้เขามีงานวิจัยเกี่ยวกับวิธีแก้ไขปัญหานักเรียนที่ติดหนังสือการ์ตูนที่น่าสนใจ โดยเขาเริ่มต้นที่แนวคิดว่าไม่มีเด็กคนไหนหรอกที่คิดว่าการ์ตูนเป็นหนังสือที่ดีกว่าหนังสือประเภทอื่นๆ แต่ที่เด็กชอบอ่านการ์ตูนนั้นก็เพราะพวกเขารู้ศัพท์น้อย เมื่อรู้ศัพท์น้อยเวลาอ่านหนังสือก็จะอ่านไม่รู้เรื่องจึงทำให้ไม่ชอบอ่านหนังสือ พวกเขาจึงหันไปอ่านการ์ตูนซึ่งมีภาพ ประกอบมากกว่าคำศัพท์ ขณะที่เด็กซึ่งรู้ศัพท์เยอะเพราะได้ฝึกฝนการอ่านมาตั้งแต่เด็กๆจะไม่ค่อยชอบอ่านการ์ตูนเพราะมี ภาพประกอบเยอะเลยทำให้ไม่เหลืออะไรไว้ให้เขาได้จินตนาการเหมือนตอนอ่านหนังสือ
วิธีการจูงใจให้เด็กที่ติดการ์ตูนหันมาอ่านหนังสือทั่วไป หากเด็กไม่ยอมอ่านหนังสือทุกประเภท เขาแนะนำให้เริ่มด้วยการ อ่านหนังสือภาพซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมไปสู่หนังสือที่มีแต่ตัวหนังสือ หนังสือภาพจะช่วยพัฒนาศักยภาพด้านจินตนาการของเด็ก จะช่วยทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นให้เด็กอยากอ่านหนังสือในที่สุด ส่วนเด็กที่อ่านแต่การ์ตูนและไม่ยอมอ่านหนังสือแบบอื่นๆเลย ในตอนแรกๆต้องยอมให้อ่านการ์ตูนไปก่อนแล้วค่อยๆเลือกเรื่องที่มีตัวหนังสือมากขึ้นมาให้อ่าน เช่นการ์ตูนเสริมความรู้เพราะจะมีตัวหนังสือมากกว่าการ์ตูนที่มีการต่อสู้กัน
วันหยุดเช่นวันอาทิตย์ที่กำลังอ่านเดลินิวส์กันอยู่นี้ คุณพ่อคุณแม่ควรจะให้ลูกอ่านหนังสือออกเสียงดังๆที่บ้านเพราะการ อ่านออกเสียงนอกจากจะเป็นการฝึกอ่านที่ดีวิธีหนึ่งแล้วยังเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้สมองส่วนต่างๆตื่นตัวซึ่งจะช่วย ให้ความทรงจำดีขึ้นมากกว่าการอ่านเงียบๆถึงสองเท่า ถ้าให้เด็กที่อ่านหนังสือไม่ค่อยออกหรืออ่านออกแต่ไม่ค่อยเข้าใจเนื้อเรื่องลองให้อ่านออกเสียงดังๆดู นอกจากจะช่วยให้ลูกเข้าใจเร็วขึ้นแล้วยังจะจำได้นานขึ้นอีกด้วย เด็กทารกที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยการอ่านหนังสือให้ฟังเป็นประจำมักจะเป็นเด็กหัวดี ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขาได้รับการกระตุ้นด้วยเสียงของภาษามาตั้งแต่ยังแบเบาะ การได้ยินเสียงจึงเป็นผลดีต่อการทำงานของสมองทั้งสองซีก เรื่องนี้ยืนยันด้วยงานวิจัยที่พบว่า การที่คนยิวเป็นคนฉลาดกว่าคนชาติอื่นๆนั้นก็เพราะเด็กชาวยิวที่อายุครบ ๓ ขวบจะถูกสอนให้อ่านพระคัมภีร์โบราณของศาสนายิวด้วยเสียงดังๆแล้วต้องท่องจำออกมาให้ได้
ความจริงยังมีเนื้อหาที่น่าสนใจอย่างมากจากหนังสือเล่มนี้ เช่นควรจะเลือกหนังสือแบบไหนให้ลูกที่มีนิสัยต่างกันอ่าน หรือทำไมควรฝึกให้เด็กอ่านหนังสือไปยิ้มไป อยากให้ไปลองหาอ่านกันดูครับ
