สองอาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้เล่าว่าสาเหตุที่แรงงานและคนเมียนมาทั่วไปคลั่งไคล้ด่อว์อองซานอย่างมากนั้น เป็นเรื่องที่สืบ เนื่องมาจากการที่พ่อของเธอปู่ว์โช่วอองซานเป็นวีรบุรุษคนแรกของประเทศ และเมื่อเกิดวิกฤติทางการเมืองจนทำให้คน เมียนมาต้องหาคนมานำมวลชนเพื่อต่อสู้กับรํฐบาลทหารนั้น ผู้คนซึ่งไม่มีวีรบุรุษหรือแกนนำคนอื่นๆจึงได้ไปเชิญ ด่อว์อองซานมาเป็นแกนนำ และหลังจากนั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปจนกระทั่งปัจจุบัน
เมื่อพรรค NLD ของเธอชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดอย่างถล่มทลายจนพรรค USDP ของทหารต้องยอมแพ้และถอยกับ เข้ากรมกองอย่างสงบนั้น แทนที่ด่อว์อองซานจะใช้ไม้แข็งเดินหน้าลุยกับทหาร เธอกลับใช้ไม้อ่อนเดินเข้าหาและพูดคุยกับ กองทัพถึงการถ่ายโอนอำนาจอย่างนุ่มนวล ไม่แข็งกร้าวเสมือนหนึ่งว่าเธอไม่เคยโดนกองทัพกักบริเวณและกดขี่ข่มเหงเธอ มาโดยตลอดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531
แม้ว่าลึกๆแล้วกองทัพอาจจะยังไม่สบายใจนักกับการก้าวขึ้นมามีอำนาจของเธอแต่เมื่อด่อว์อองซานใช้ความนุ่มนวลและ การเจรจาเป็นตัวนำ กองทัพจึงยอมรับกับสภาพในปัจจุบันได้ แม้ว่าในความเป็นจริงกองทัพเมียนมาจะยังมีอำนาจเต็ม เหมือนเดิมและสามารถจะทำอะไรก็ได้...