ช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางขึ้นลงภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ค่อนข้างบ่อย กำลังเริ่มรู้สึกดีใจแทนคนท้องถิ่น เจ้าของร้านอาหาร โรงแรม และคนในวงการท่องเที่ยวที่กำลังจะตายเพราะรายได้หายเกือบเกลี้ยงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ช่วงเดือนหนึ่งที่ผ่านมานี้คนกลับมาเที่ยวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จนกระทั่งมีข่าวคนไทยแอบกลับเข้าประเทศและนำเชื้อโควิด-19 กลับมาเข้าเผยแพร่ในภาคเหนือจนเป็นข่าวที่ทำเอาตกใจกันทั้งประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวพากันยกเลิกการท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ผมเองแม้จะได้ข่าวแต่ก็ยังอยากจะไปดูด้วยตาตัวเองว่าผลของคนมักง่ายเห็นแก่ตัวไม่กี่คนจะเป็นอย่างไร?
น่าตกใจมาก คือสถานการณ์ตอนเริ่มแรกที่มีข่าว ทั้งเครื่องบิน โรงแรม ร้านอาหารในจังหวัดที่ผมไปโล่งและว่างจนน่าสงสาร แต่พอมาถึงช่วงวันหยุดยาวที่เริ่มต้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากคนไทยเราตั้งหลักและทำใจได้ รวมถึงภาครัฐดาหน้ากันออกมารับรองความปลอดภัย ผมก็เริ่มเห็นคนไทยเริ่มกลับมาเดินทางไปภาคเหนือกันอีกครั้ง เลยรู้สึกดีใจแทนคนในหลายจังหวัดภาคเหนือ
ล่าสุดมีโอกาสไปเที่ยว อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ที่ผมเคยมีโอกาสได้ร่วมจัดงานตั้งแต่สมัยมีมหกรรมพืชสวนโลก ที่โด่งดังไปทั่วโลกช่วงปลายปีพ.ศ. 2549 ต่อต้นปี 2550 หรือกว่าสิบสามปีมาแล้ว ทีมงานอุทยานหลวงก็ได้พาผมไปชมในทุกๆจุดที่ผมเคยไปมา ภาพความชื่นใจในอดีตก็ย้อนกลับมาเต็มความทรงจำอีกครั้งหนึ่ง ชื่นใจมากๆครับ
นอกจากนั้นมีผมโอกาสได้พบกับทีมผู้บริหารโครงการหลวง ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวแก่ชาวเขาเพื่อหารายได้ทดแทนการปลูกฝิ่น มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2512
วันที่ได้พบทีมผู้บริหารโครงการหลวงนั้น ผมได้มีโอกาสได้ทานอาหารที่ครัวโครงการหลวง ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆอุทยานหลวงราชพฤกษ์นั่นเอง เลยมีโอกาสได้ทานยำสตอเบอรี่โครงการหลวง น้ำพริกปลารักฉ่อง น้ำพริกของชาวไทใหญ่กับผักสดโครงการหลวง แกงฮังเลกระดูกหมูกับหมั่นโถว ปลาสเตอเจี้ยนผัดฉ่า ปวยเล้งผัดกระเทียมและซุปไก่ดำ ต้องบอกว่าอร่อยทุกจานครับ ที่สำคัญนอกจากอร่อยแล้วยังทานด้วยความสบายใจเพราะผู้บริหารโครงการหลวง อธิบายว่าทั้งสตอเบอรี่ซึ่งปรกติผมจะไม่ค่อยทานเพราะกลัวเรื่องปุ๋ยและยาฆ่าแมลง และผักสดของโครงการหลวงนั้น สะอาดและปลอดภัยอย่างแน่นอน
ผมเลยขออนุญาตแจ้งข่าวดีสำหรับคนที่สนใจจะไปเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงวันที่ 21 ถึง 27 ธันวาคมนี้ เพราะจะมีงาน “โครงการหลวง 2563” ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. ซึ่งเราสามารถไปเลือกซื้อเลือกหาผลผลิตเพื่อสุขภาพ ผลไม้ ดอกไม้ พืชผักนานาชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป รวมกว่า 1,000 รายการ และร่วมสนุกเพลิดเพลินไปกับฐานการเรียนรู้และกิจกรรมมากมาย โดยอุทยานหลวงราชพฤกษ์นอกจากจะร่วมจัดดอกไม้ให้งามสะพรั่งไปทั้งอุทยานด้วยแล้ว ยังใจดีเปิดให้เข้าอุทยานฟรีอีกด้วย
ใครที่ยังไม่มีแผนจะไปเที่ยวไหน ลองวางแผนไปเที่ยวเชียงใหม่กันดูนะครับ แล้วลองไปเดินงานโครงการหลวงดู รับรองว่าจะตื่นตาตื่นใจกับผลผลิตแจ๋วๆของโครงการหลวงและดอกไม้อันงดงามแล้ว ยังจะมีโอกาสสูดอากาศบริสุทธิ์และรับลมหนาวอีกด้วย
สำหรับคนต่างถิ่นที่ไม่ใช่คนเชียงใหม่ แล้ววางแผนจะบินไปเที่ยว ผมได้ทราบข่าวดีจากสายการบินนกแอร์มาว่า ถ้าซื้อผลผลิตใน งาน “โครงการหลวง 2563” ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ในช่วงวันที่ 21 ถึง 27 ธันวาคมนี้แล้วผู้โดยสารสามารถนำเอาผลผลิตโครงการหลวงโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องได้ฟรีมากถึงคนละ 20 กิโลกรัม
ส่วนคนที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปเชียงใหม่ ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะโครงการหลวงเขาจัดงานขายผลผลิตโครงการหลวงแบบเดียวกับที่ขายในเชียงใหม่ในร้านโครงการหลวงทุกสาขาทั่วประเทศ และนกแอร์ก็ใจดีขนให้ฟรีคนละ 20 กิโลกรัมเหมือนกัน เพียงแค่ตอนแพ็คของอย่าลืมดูให้มีตราสัญญลักษณ์ของโครงการหลวงและนกแอร์ด้วยก็แล้วกัน ลองสอบถามรายละเอียดจากร้านโครงการหลวงดู
และหากไปเที่ยวเชียงใหม่ อย่าลืมมองหาตราสัญญลักษณ์ “ We Love Chiang Mai” ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนเชียงใหม่กว่า 10,000 ราย รวมตัวกันส่งเสริมการท่องเที่ยว แข่งกันให้ส่วนลดทั้งจังหวัดอย่างน่าประทับใจ จะได้เที่ยวเชียงใหม่และช็อปกันแบบม่วนใจ๋สบายกระเป๋ากันทุกคน