อาทิตย์ที่แล้วผมทิ้งท้ายเอาไว้ว่า การที่รัฐบาลจะผลักดันให้จันทบุรีให้เป็นมหานครผลไม้โลกนั้น จำเป็นที่จะต้องประยุกต์ เอานวัตกรรมดีๆของญี่ปุ่นเอามาใช้ด้วยจึงจะสำเร็จ
การจะเป็นมหานครผลไม้โลกให้ได้นั้นเกษตรกรจันทบุรีจะต้องเน้นเรื่อง “คุณภาพ” ให้มากที่สุดเช่นเดียวกับเกษตรกร ญี่ปุ่น ซึ่งไม่ว่าจะปลูกอะไร เขาจะพยายามอย่างที่สุดที่จะต้องทำให้ผลไม้หรือผลผลิตอื่นๆออกมามีคุณภาพดีที่สุด
“สหกรณ์” เป็นตัวกลางที่มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการเตรียมดิน การคัดเลือก เมล็ดพันธุ์ เทคนิคการใส่ปุ๋ยใส่ยาฆ่าแมลง การเก็บเกี่ยว การจัดหาแพ็คเก็จจิ้ง ช่วยกระทั่งการจัดหาเงินทุน พูดได้เต็มปาก เต็มคำเลยว่าชีวิตเกษตรกรญี่ปุ่นนั้นขึ้นอยู่กับ “สหกรณ์” ของเขาแบบเต็มๆ
ผู้บริโภคญี่ปุ่นนั้นเวลาซื้อผลไม้ ผลไม้ก็จะต้องสะอาดเอี่ยมแบบเอาเข้าปากทานได้เลย เวลาซื้อผัก อย่าว่าแต่ใบจะต้อง สะอาดเอี่ยมเลยแม้แต่รากก็ต้องสะอาด ต้องไม่มีขี้ดินติดให้เห็นแม้แต่น้อย ซึ่งเกษตรกรญี่ปุ่นเขาทำได้ เพราะมี “เครื่องล้าง” ซึ่งเหมาะสมกับผลไม้หรือผักแต่ละชนิด แม้แต่ผักที่หั่นใส่ถุงแบบพร้อมให้เอาไปปรุงทานหรือเอาไป ทานสดๆแบบสลัด เขาก็ยังมี “เครื่องล้าง” เป็นตัวช่วย ซึ่งเกษตรกรจันทบุรีต้องเริ่มมองหาเครื่องล้างมาใช้บ้าง
เมื่อล้างสะอาด เกษตรกรญี่ปุ่นเขาก็มีเครื่องวัดความหวาน ซึ่งมีทั้งแบบใหญ่ที่เอาผลไม้มาผ่านเหมือนเครื่องเอ็กซ์เรย์ เขาก็จะแยกผลไม้แต่ละผลได้ทันทีว่ามีความหวานกี่บริกซ์ หรือจะเอาแบบ “เครื่องวัดความหวานมือถือ” เครื่องเล็กๆ ซึ่งแค่เอาไปแตะที่ผิวของผลไม้ ก็จะรู้ทันทีว่าหวานเท่าไหร่ ผมมีโอกาสทดลองด้วยตัวเองยังต้องทึ่ง เพราะเมื่อเอาเครื่อง วัดความหวานมือถือไปแตะที่ผลแอ๊ปเปิ้ล เครื่องก็แสดงความหวานออกมาทันที แถมละเอียดมากพอที่จะบอกเราเลยว่า แอ๊ปเปิ้ลตรงหัวกับตรงท้ายผล มีความหวานต่างกัน น่าอะเมซิ่งมาก
วัดความหวานได้ทุกผลยังไม่พอ เกษตรกรญี่ปุ่นยังมีตัวช่วยวัดสีผลไม้อีกด้วย ผมไปเจอเครื่องวัดสีผลไม้มือถือซึ่งสามารถ ตั้งค่าสีที่เราต้องการว่าจะเอาแดงแค่ไหน เมื่อตั้งค่าเสร็จเอาเครื่องไปส่องที่ผลไม้ ถ้าสีแดงตรงกับค่าที่เราตั้งเครื่องก็จะร้อง แบบหนึ่ง แต่ถ้าสีไม่ตรงกับสีแดงที่เราต้องการเครื่องก็จะร้องอีกแบบหนึ่ง ด้วยตัวช่วยแบบนี้ ผลไม้ทุกกล่องของญี่ปุ่นถึง มีสีเหมือนกันทุกผล และนี่คืออีกหนึ่งนวัตกรรมที่ทำให้ผลไม้ญี่ปุ่นขายได้ราคาแพง
ขนาดของผลไม้ก็เป็นอีกเรื่องที่เกษตรกรญี่ปุ่นให้ความสำคัญ เพราะเวลาเขาคัดผลไม้มาใส่กล่องนั้น นอกจากจะต้อง สะอาดเอี่ยม 100 เปอร์เซ็นต์ ความหวานจะต้องเท่ากันและสีจะต้องสวยเสมอกันแล้ว ผลไม้ที่อยู่ในกล่องเดียวกันจะต้องมี ขนาดและรูปทรงเหมือนๆกันอีกด้วย ซึ่งการคัดรูปทรง ขนาดและน้ำหนัก เกษตรกรญี่ปุ่นเขาก็มี “เครื่อง” มาเป็นตัวช่วย และในระยะหลังที่ ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กำลังเป็นที่นิยม ญี่ปุ่นเขาก็เอา AI มาใส่ในเครื่องคัดรูปทรง ขนาดและน้ำหนัก ผลไม้อีกด้วย
ผมไปดูงานของญี่ปุ่นมาครั้งที่แล้วไปเจอเครื่องคัดสีแบบอัตโนมัติหลายเครื่อง เครื่องแรกที่ได้เห็นเป็นนวัตกรรมของ สหรัฐฯที่เขามาคัดเจลลี่สีต่างๆโชว์ เมื่อตั้งค่าว่าไม่เอาเจลลี่สีเขียวแล้วเขาเอาเจลลี่หลายสีนับหมื่นๆชิ้นเทใส่ลงไปใน สายพาน เครื่องจะคัดเอาเจลลี่สีเขียวแยกออกไปได้ภายในไม่ถึงนาที คัดได้เร็วแบบตาคนมองไม่ทัน น่าอะเมซิ่งมาก
เครื่องที่สองเป็นนวัตกรรมญี่ปุ่นที่เอาไว้คัดสีเม็ดกาแฟว่าคั่วแล้วสีสวยเสมอกันทั้งเม็ดหรือไม่ ถ้าสีไม่เสมอกันและไม่ใช่สีน้ำตาลเข้มสวยอย่างที่ตั้งค่าไว้เครื่องจะคัดออกทันที เห็นแล้วอึ้ง ผมเลยถามเล่นๆว่าถ้าเล็กกว่าเม็ดกาแฟจะคัดได้ไหม? ญี่ปุ่นไม่ตอบแต่พาผมไปดูเครื่องคัดเมล็ดงา ที่สามารถคัดเมล็ดงาที่มีตำหนิ ถ้าไม่ใช่สีเหลืองทองทั้งเมล็ด หรือแค่มีจุดดำเล็กๆบนเมล็ด เครื่องจะคัดทิ้งออกไปได้ทันที น่าอะเมซิ่งสุดๆ
ยังมีอีกหลายนวัตกรรมของญี่ปุ่นซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อจันทบุรีมหานครผลไม้โลก ที่จะมาเล่าต่อในอาทิตย์หน้าครับ