Amazing AEC – ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันใน AEC

0
563

เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ว่าดัชนีภาพลักษณ์คอรัปชั่นของไทยซึ่งวัดกันทุกปีโดยองค์กรความโปร่งใสนานาชาติของปี พ.ศ. 2561 ได้คะแนนลดลงจาก 37 เหลือ 36 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 ทำให้อันดับแย่ลงจากอันดับที่ 96 เป็นอันดับที่ 99 จาก 180 ประเทศทั้งหมดที่เขาวัดกัน

ถ้าดูดัชนีภาพลักษณ์คอรัปชั่นย้อนหลังไปถึงปีพ.ศ. 2555 ซึ่งไทยได้ 37 คะแนน อันดับที่ 88 ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ประเทศไทยภายใต้การบริหารของทั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและรัฐบาลที่มาจากรัฐประหารล้วนแต่ยังคอรัปชั่นกัน หนักเหมือนเดิม สะท้อนความล้มเหลวขององค์กรอิสระทั้งหลายที่มีหน้าที่ในการปราบปรามคอรัปชั่น โดยเฉพาะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช.

เมียนมาร์นับเป็นประเทศที่มีพัฒนาการด้านความโปร่งใสดีที่สุดใน AEC จาก 15 คะแนน อันดับที่ 172 เกือบบ๊วยในโลก ในปีพ.ศ. 2555 ปีล่าสุดเมียนมากลับทำคะแนนได้ 29 คะแนนและอันดับที่ 132 ไล่จี้ไทยเรามาติดๆ เช่นเดียวกับ สปป.ลาว ที่ทำได้ดีมากจากที่เคยได้แค่ 21 คะแนน อันดับที่ 160 ในปีพ.ศ. 2555 ปีล่าสุดก็สามารถทำได้ 29 คะแนน ได้อันดับเดียว กับเมียนมาร์

ตรงกันข้ามกับกัมพูชาที่คะแนนแย่ลงจาก 22 คะแนนและอันดับที่ 157 ในปีพ.ศ. 2555 ร่วงลงไปเหลือ 20 คะแนนอันดับที่ 161 ยังไม่มีวี่แววจะดีขึ้นเลยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ส่วนเวียดนามแม้จะมีพัฒนาการด้านเศรษฐกิจอย่างน่าอะเมซิ่ง แต่ทาง ด้านความโปร่งใสกลับมีพัฒนาการที่น้อยมาก โดยปีล่าสุดเวียดนามได้ 33 คะแนนอันดับที่ 117 ดีขึ้นจากปีพ.ศ. 2555 ซึ่งได้ 31 คะแนนอันดับที่ 123 เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง

อินโดนีเซียหลังได้ประธานาธิบดีมือสะอาด โจโค วิโดโด้หรือโจโควี่คะแนนและอันดับก็ดีวันดีคืนอย่างเห็นได้ชัด จาก 32 คะแนนอันดับที่ 118 แพ้ไทยทั้งคะแนนและอันดับ แต่ปีล่าสุดอินโดนีเซียกลับทำได้ 38 คะแนนและได้อันดับที่ 89 ดีกว่าไทย เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ซึ่งเคยแพ้ไทย โดยได้ 34 คะแนนอันดับที่ 105 แต่ปีล่าสุดกลับได้คะแนนและอันดับเท่ากับ เมืองไทย ทั้งนี้ต้องยกให้เป็นผลงานของประธานาธิบดีคนที่แล้ว เบนิกโน่ อะกิโน่ที่ 3 และประธานาธิบดีคนปัจจุบัน โรดริโก้ ดูเตอร์เต้
ทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์น่าจะเป็นตัวอย่างของประเทศที่เคยมีคอรัปชั่นกันอย่างหนักแต่เมื่อได้ผู้นำมือสะอาดและเอา จริงเอาจังเรื่องการปราบคอรัปชั่น ประเทศก็สะอาดโปร่งใสขึ้นได้อย่างน่าอะเมซิ่ง

มาเลเซียซึ่งแม้วิกฤติการคอรัปชั่น 1 MDB จะจบลงไปพร้อมๆกับวิกฤติทางการเมือง และการกลับมาของอดีตนายก รัฐมนตรี ดร.มหาเธ แต่ก็ยังเร็วเกินไปกว่าที่คะแนนดัชนีภาพลักษณ์คอรัปชั่นและอันดับจะปรับตัวดีขึ้น ปีล่าสุดได้ 47 คะแนน อันดับที่ 61 ดีเป็นอันดับ 3 ของ AEC ต้องจับตาดูว่ามาเลเซียจะสามารถกลับไปภึงจุดที่เคยได้คะแนนมากกว่า 50 คะแนนเหมือนในอดีต ที่ดร.มหาเธเคยทำได้หรือไม่

บรูไนซึ่งเป็นประเทศโปร่งใสอันดับ 2 ของ AEC ก็คงยังสามารถรักษาอันดับไว้ได้ต่อไปอีก เพราะปีพ.ศ. 2561 บรูไนทำได้ 63 คะแนนได้อันดับที่ 31 ของโลก ดีขึ้นจาก 55 คะแนนอันดับที่ 46 อย่างน่าประทับใจ

สิงคโปร์ซึ่งเคยคอรัปชั่นหนักเหมือนไทยเรา แต่พออดีตนายกฯ ลีกวนยู ลุยปราบคอรัปชั่นภายใต้องค์กรปราบคอรัปชั่น เดิม Corrupt Practices Investigation Bureau (CPIB) คะแนนและอันดับของสิงคโปร์ก็ดีวันดีคืนจนติดอันดับต้นๆของ โลกและเป็นที่ 1 ของ AEC มาอย่างต่อเนื่อง ปีล่าสุดได้ 85 คะแนนอันดับที่ 3 ของโลกโปร่งใสเท่ากับ ฟินแลนด์ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ แพ้เฉพาะเดนมาร์กและนิวซีแลนด์ซึ่งได้อันดับที่ 1 และ 2 ของโลกเท่านั้นเอง

[smartslider3 slider="9"]