Amazing AEC – ผลงานปราบคอร์รัปชั่นของโมดี

0
586

อาทิตย์นี้ขอรายงานผลการปราบคอร์รัปชั่นของอินเดียให้ทราบนะครับ

เรื่องแรกการยกเลิกแบงก์เก่าใบละ 500 รูปีและ 1,000 รูปี จำนวน 23,000  ล้านฉบับแบบหักดิบ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมาเพื่อบีบให้คนเอาเงินสกปรกที่ซุกอยู่มาเข้าระบบด้วยการฝากธนาคารให้หมด ปรากฏว่าจนถึงวันที่ 3 ธันวาคมมีคนเอาเงินเข้าฝากธนาคารเพิ่มขึ้น 12.64 ล้านล้านรูปี หรือ 6.7 ล้านล้านบาท โดยทุกคนที่เอาเงินเข้าฝากธนาคารนั้นจะต้องแสดงบัตรประชาชน ใครที่ไม่เคยเสียภาษีรัฐบาลก็สามารถตามเก็บภาษีได้ คนที่ยังไม่ได้ฝากก็ยังมีโอกาสฝากได้จนถึง 30 ธันวาคม ตามเงื่อนเวลา 50 วันตามที่โมดีให้ ถึงตอนนั้นจะรายงานอีกที ว่าเงินนอกระบบเข้าสู่ระบบเท่าไหร่นะครับ

ส่วนคนโกงทั้งหลายเช่นพวกคอร์รัปชั่น ค้ายาเสพติด ขายของผิดกฎหมายก็จะไม่กล้าเอาเงินเข้ามาฝาก เพราะจะไม่ได้โดนแต่ภาษีแต่จะโดนจับติดคุกด้วย คนพวกนี้จะต้องยอมทิ้งเงินเก่าซึ่งกำลังจะไร้ค่าหลัง 30 ธันวาคมนี้สูงถึง 5 ล้านล้านรูปี หรือราว 2.65 ล้านล้านบาท คำนวณได้จากจำนวนแบงก์เก่าทั้งหมดที่อยู่ในระบบ หักด้วยจำนวนเงินเก่าที่เอามาแลกแบงก์ใหม่จากธนาคารและจำนวนเงินเก่าที่เอามาฝากธนาคาร จำนวนที่เหลือก็คือเงินที่คนโกงยอมทิ้งครับ ซึ่งรัฐบาลสามารถเอามาใช้เป็นงบประมาณพัฒนาประเทศได้เลย

เคล็ดลับที่โมดีทำได้สำเร็จก็คือ หนึ่ง ทำเป็นความลับ ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าจะมีการยกเลิกแบงก์เก่า เลยทำให้คนโกงเตรียมตัวไม่ทัน สองคนจนที่เดือดร้อน โมดีเขามือสะอาด เขาก็บอกตรงๆ ว่า รู้ว่าเดือดร้อนแต่ขอให้ทน 50 วัน แล้วจะได้ประเทศที่ใสสะอาด คนบ่นแต่ก็ทนเพราะรู้ว่าอนาคตดีแน่ สาม การวางระเบียบที่รัดกุมทั้งจำกัดการแลกแบงก์ใหม่ การบังคับให้แสดงตนตอนฝากธนาคาร ทำให้เงินทุกรูปีเข้าสู่ระบบและมีเจ้าของ

อีกเรื่องที่โมดีทำแต่คนไทยเรายังไม่ค่อยรู้คือการนิรโทษกรรมภาษีครับ พอเศรษฐกิจนอกระบบมีขนาดใหญ่ สังคมส่วนใหญ่ใช้แต่เงินสด ธุรกิจทั้งหลายก็มีช่องทางในการหนีภาษีกันสนุก โมดีเลยคิดว่าจะปราบคอร์รัปชั่นได้จะต้องเอาเงินเข้าระบบให้หมดและต้องเอาทุกคนเข้าสู่ระบบภาษีให้ได้ ไม่งั้นปัญหาไม่จบ โมดีก็เลยคิดมาตรการนิรโทษกรรมภาษีขึ้นโดยประกาศว่าให้คนที่เคยหนีภาษีเอาเงินรายได้เข้าฝากธนาคารให้หมด ไม่ฝากก่อน 30 ธันวาคมก็ไม่ได้อีกเพราะเงินที่ซุกไว้ ในบ้านในตุ่มจะไร้ค่า จะเอาไปฝากในชื่อคนอื่นรัฐบาลก็ตามเก็บภาษีอยู่ดี เพราะฉะนั้นยอมมอบตัวเข้าสู่โหมดนิรโทษกรรมภาษีเลยดีกว่า

เมื่อเอาเงินรายได้ที่ไม่เคยเสียภาษีเข้าฝากธนาคาร รัฐบาลจะขอเก็บภาษี 1 ครั้ง คิดเป็น  45 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่นำฝากแล้วจบกัน ที่เงินที่เหลือในธนาคารให้นับเป็นเงินบริสุทธิ์ คนหรือธุรกิจที่นำเงินฝากธนาคารไม่มีความผิดอะไรอีกแล้ว ต่อไปก็ทำธุรกิจให้โปร่งใสและเสียภาษีต่อไปก็เท่านั้นเอง ตัวเลขล่าสุด มีคนหนีภาษีเอาเงิน 673,800 ล้านรูปีหรือราว   357,114 ล้านบาทเข้าฝากธนาคาร ซึ่งรัฐบาลจะสามารถเก็บภาษีได้  45 เปอร์เซ็นต์และจะได้ภาษีเป็นเงิน 160,701 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าตัวเลขนี้ยังไม่ใช่ตัวเลขสุดท้าย

ที่น่าอะเมซิ่งก็คือในมาตรการนี้มีสองครอบครัวเขายอมเปิดรายได้ที่หนีภาษีออกมาให้รัฐบาลเห็นครับ ครอบครัวแรกอยู่ ในรัฐคุชราต รัฐที่โมดีเคยเป็นมุขมนตรีมายาวนาน น่าจะรู้จักกันดี เปิดรายได้ที่ยังไม่เคยเสียภาษีเป็นจำนวน 138,600 ล้านรูปี ราว 73,458  ล้านบาท อีกครอบครัวหนึ่งในมุมไบยิ่งน่าอะเมซิ่งเพราะเขาซุกรายได้เอาไว้เป็นเงินสดสูงถึง  1.92 ล้านล้านรูปีหรือราว 1 ล้านบาทเลยทีเดียวครับ ตัวเลขรายได้ของสองครอบครัวที่ยอมเปิดมาครั้งนี่ว่าน่าอะเมซิ่งแล้ว แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของโมดีนั้นน่าอะเมซิ่งยิ่งกว่า เพราะเขาบอกว่ารายได้ที่สองครอบครัวซุกเอาไว้นั้นมันมากมาย มหาศาลเกินกว่าจะเข้าข่ายนิรโทษกรรมภาษีได้ รัฐบาลจะดำเนินการตามกฎหมายอื่นๆ ซึ่งสองครอบครัวนี้จะต้องโดนลงโทษอย่างหนักแน่นอน

นี่ถ้าสองครอบครัวนี้มาเกิดเมืองไทยแล้วเอาเงินมาฝากแบบนี้ คงจะได้รับการยกย่องชมเชยใหญ่โตจากรัฐบาลว่าเป็นคนดี เห็นแก่สังคม ยอมเสียภาษี ชาติหน้าเลือกประเทศเกิดใหม่ให้ดีๆ นะ จะบอกให้

[smartslider3 slider="9"]