เมื่อต้นอาทิตย์ที่ผ่านมาผมไปกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามมาครับ ตั้งใจจะไปหาอาหารอร่อย ๆ ของฮานอยชิม เพื่อจะได้กลับมาแนะนำให้ท่านผู้อ่านตามรอยไปชิมบ้าง โชคดีที่พอไปถึงก็พบว่าที่นั่นเขามีงานเทศกาลไทยครั้งที่ 9 พอดีก็เลยได้แวะไปเที่ยวงานนี้ และก็โชคดีเพราะได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับแม่งานคือท่านเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย มานพชัย วงศ์ภักดีด้วย
ท่านทูตบอกกับผมว่า งานเทศกาลไทยนี่จัดต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 9 แล้วยกเว้นปีที่แล้วที่ไม่ได้จัด ท่านทูตบอกว่างานเทศกาลไทยนี้ท่านตั้งใจจัดให้ใหญ่ขึ้นดีขึ้นทุกปี โดยปีนี้ได้ใช้พื้นที่ในสวนสาธารณะถงยึด (Thong Nhat) ใจกลางกรุง ฮานอย พอผมเดินเข้าไปในงานก็แอบทึ่งอยู่พอสมควรว่างานเทศกาลไทยนี่เขาจัดกันได้ดีขนาดนี้เลยทีเดียวเชียวหรือ ทั้งเวทีกลาง บูทสินค้าต่าง ๆ แถมยังมีเวทีมวยไทยกลางงานอีกด้วย คนที่มาออกงานบางคนก็แอบกระซิบกับผมว่าตั้งแต่ มาร่วมแสดงสินค้าในเวียดนามทั้งฮานอยและโฮจิมินห์หลายครั้ง งานนี้แหล่ะที่จัดได้โดนใจผู้ออกบูทสุด ๆ
ปีนี้จังหวัดสกลนครนำทีมโดยท่านผู้ว่าฯจัดเต็ม ยกทัพสินค้าสุดยอดของจังหวัด เช่น ผ้าไหมย้อมคราม น้ำเม่า ข้าวฮาง เนื้อโพนยางคำ ฯลฯ มาแสดงและขายให้คนฮานอยได้ทึ่งและได้ชิม แถมยังเอามรดกของดีศรีสกลเช่นฟ้อนภูไทสกลนคร ระบำหางนกยูง รำมวยโบราณมาแสดง นอกจากนี้ยังมีคณะนาฏศิลป์สบันงามาโชว์ “The Miracle of Thai Kingdom” และยังมีบริษัทต่าง ๆ นำสินค้าไทยที่คนเวียดนามชอบมาขายทั้งเครื่องแกงและของทานเล่นต่าง ๆ ส่วนอาหารการกินนั้น ก็มีให้เลือกทานหลากหลายโดยเฉพาะส้มตำนั้นขาดไม่ได้แน่นอน คนฮานอยนั้นเขาทานอาหารรสชาติไม่จัดเหมือนคนโฮจิมินห์ ดังนั้นส้มตำที่จะตำขายคนที่นี่ต้องใส่พริกแค่เม็ดเดียว แต่ที่น่าอะเมซิ่งก็คือปูดองที่ใส่ส้มตำครับ เพราะปูดอง เวียดนามนั้นไม่เหมือนปูเค็มของไทยที่นิยมใส่ส้มตำกัน ปูดองของเวียดนามนั้นเขาดองแบบครบรส มีครบทั้งเค็มหวาน และเผ็ดนิด ๆ แถมหอมเครื่องเทศ เอาเป็นว่าปูดองของเวียดนามนั้นถ้าเอามาทานกับข้าวสวยร้อน ๆ นี่อร่อยเลย ส้มตำไทยใส่ปูดองเวียดนามนี่เลยอร่อยแปลกไปจากส้มตำไทยใส่ปูนะครับ ถ้ามีโอกาสไปลองหาร้านชิมดู ส่วนปลาร้านั้นคน เวียดนามบอกกลิ่นแรงไปนิด ขอไม่ใส่ครับ
แต่ที่ผมชอบเพราะสะท้อนความเป็นทีมประเทศไทยมากที่สุดคืองานเทศกาลไทยครั้งนี้ บรรดาท่านผู้ช่วยทูตทหารทั้งสามเหล่าทัพได้มาออกบูท เอาอาหารไทยมาให้คนเวียดนามได้ทดลองชิมกันด้วย มีทั้งข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวมันไก่ ข้าวเหนียว มะม่วง รวมถึงของหวานอื่น ๆ และเครื่องดื่มแบบไทย ๆ บรรดาครอบครัวของท่านผู้ช่วยทูตทหารและทีมงานต่างก็มาช่วยกันทำช่วยกันขายอย่างสนุกสนาน ดูแล้วชื่นใจในความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันครับ ผมประทับใจมาก
ท่าน ผอ.ททท.ประจำเวียดนาม คุณนภสร ค้าขายบอกกับผมว่าสำนักงานการท่องเที่ยวในเวียดนามนั้นรับผิดชอบการส่งเสริมการท่องเที่ยวในสามประเทศคือเวียดนาม กัมพูชา และสปป.ลาว ซึ่งก็น่าภูมิใจที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวเติบโตได้ดีทั้งสามประเทศเลยโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเวียดนามเดิมนักท่องเที่ยวเวียดนามนิยมมาเที่ยวกรุงเทพฯ และพัทยา ททท. เลย เร่งโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น หัวหิน เขาใหญ่ เชียงใหม่ ภูเก็ตสำหรับนักท่องเที่ยวเวียดนามที่มีกำลังซื้อสูง แต่ที่น่าสนใจก็คือ ททท. ไทยไม่ได้ส่งเสริมให้เฉพาะนักท่องเที่ยวเวียดนามมาเที่ยวเมืองไทยเท่านั้น แต่เรายังจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยให้อยากมาเที่ยวเวียดนาม กัมพูชา และสปป.ลาว อีกด้วย โดยคาดหวังว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ จะมาเที่ยวในภูมิภาคนี้ให้นานขึ้นและใช้จ่ายมากขึ้น ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ทุกประเทศได้ประโยชน์ร่วมกัน
มวยไทยก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ทาง ททท. เวียดนามจะใช้ดึงดูดคนเวียดนามให้มาเที่ยวเมืองไทยมากยิ่งขึ้น ในงาน ททท. เลย จัดเวทีมวยไทยขนาดมาตรฐานเพื่อจัดการชกมวยไทยโชว์ ผมมีโอกาสได้คุยกับคนในวงการมวยของเวียดนามสองสามคน เลยพบว่าเดิมนั้นมวยเวียดนามนั้นมีความคล้ายคลึงกับมวยไทย อาวุธที่ใช้ก็ครบทั้งหมัด ศอก เตะ เข่า แต่ต่อมารัฐบาลเวียดนามเห็นว่าศอกกับเข่านั้นอันตรายเกินไป จึงสั่งห้ามใช้ศอกและเข่า มวยเวียดนามที่ชกกันอยู่ตอนนี้เลยแตกต่างจากมวยไทย แต่คนวงการมวยเวียดนามบอกกับผมว่ากำลังจะช่วยกันขออนุญาตให้มวยเวียดนามสามารถใช้ศอกและเข่าได้ ผมเลยจับมือกับพวกเขาและบอกว่าเมื่อไหร่ใช้ศอกและเข่าได้ เราจะมาช่วยกันจัดมวยไทยปะทะมวยเวียดนามให้โลกอะเมซิ่งกันครับว่า AEC นั้นมีความผูกพันเชื่อมโยงและมีความคล้ายคลึงกันมากกว่าที่โลกเคยรู้