PERSPECTIVE OF AEC – นเรนทรา โมดี

0
544

MIX ฉบับนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักนายกรัฐมนตรีคนเก่งของอินเดียนะครับ

นเรนทรา โมดีหรือชื่อเต็มๆว่า นเรนทรา ดาโมดาร์ดาส โมดี เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2493 เขาเกิดและ เติบโตมาในครอบครัว “วรรณะศูทร” พ่อเป็นพ่อค้าขายชา ในเมืองวัฒนาคร ของรัฐคุชราต รัฐที่ยากจนที่สุด รัฐหนึ่งของอินเดีย เนื่องจากครอบครัวไม่ได้มีฐานะดีอะไร เขาจึงต้องช่วยพ่อขายชาบนรถไฟตั้งแต่เด็กๆ ต่อมาเขาก็ได้ลง ทุนกับพี่ชายตั้งร้านขายชาที่สถานีรถไฟ เพื่อหารายได้ส่งเสียตัวเองเรียนหนังสือ

ขณะเรียนหนังสือแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนที่มีผลการเรียนโดดเด่น แต่โมดี  มีความสามารถยอดเยี่ยมในการ โต้วาทีและการพูดต่อหน้าสาธารณชน แถมมีความชอบในการเขียนบทกวี และเมื่อตอนเป็นนักศึกษาที่ มหาวิทยาลัยคุชราต เขาก็ได้เข้าร่วมกับกลุ่มนักศึกษาต่อต้านคอร์รัปชั่น และได้เริ่มเข้าสู่แวดวงการเมืองครั้งแรก ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มอาร์เอสเอส กลุ่มชาตินิยมฮินดูของพรรคภารติยะ ชนาตะ (Bharatiya Janata Party) หรือพรรคบีเจพี

หลังเรียนจบ เขาเริ่มต้นทำงานในบริษัทขนส่ง ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นผู้ช่วยรณรงค์ด้านการเมืองให้กับกลุ่ม ชาตินิยมฮินดู อาร์เอสเอส ในสังกัดพรรคบีเจพีอย่างเต็มตัว เมื่อมีโอกาสได้ทำงานการเมืองที่เขาใฝ่ฝัน เขาจึง อุทิศตัวให้กับงานของพรรคอย่างเต็มที่ จนในที่สุดได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคบีเจพี สาขารัฐคุชราต

เมื่อได้เป็นเลขาธิการ เขาจึงมีโอกาสแสดงฝีมือด้วยการวางแผนหาเสียง จนพรรคชนะการเลือกตั้งในรัฐคุชราต ในปี 2538 และ 2541 เมื่อฝีมือเป็นที่ปรากฎ ในปี 2544 พรรคบีเจพี จึงได้ส่งโมดีลงสมัครชิงตำแหน่งมุขมนตรี แห่งรัฐคุชราต (คล้ายๆตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบ้านเรา) ซึ่งเขาก็สามารถเอาชนะเลือกตั้งและได้เป็นมุขมนตรี คนที่ 14 แห่งรัฐคุชราต

ด้วยนโยบายที่เน้นการบริหารแบบโปร่งใสไร้คอร์รัปชั่น และเน้นการพัฒนาควบคู่ทั้งด้านเศรษฐกิจและ เกษตรกรรม โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพทำให้ผลผลิตทางการเกษตรสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้โมดีได้รับเลือกให้อยู่ในตำแหน่งมุขมนตรีแห่งรัฐคุชราตติดต่อกันนานถึง 4 สมัย ซึ่งเป็นเวลานานพอที่จะ ทำให้เขาสามารถพัฒนารัฐคุชราตบ้านเกิดจากรัฐที่ยากจนที่สุดรัฐหนึ่งของประเทศและเกือบจะล่มสลายเพราะ เหตุการแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ให้กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างมากของอินเดีย จนกลายเป็นรัฐต้น แบบในการพัฒนาเศรษฐกิจสำหรับรัฐอื่นๆทั่วอินเดีย

จากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในรัฐคุชราต ในปี 2557 พรรคบีเจพี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในขณะนั้นจึงได้ส่ง นายนเรนทรา โมดี ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง โมดีได้หาเสียงว่า ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีเขาจะเข้ามาฟื้นคืนชีพเศรษฐกิจของประเทศที่ซบเซา ด้วยการกระตุ้นกำลังการผลิต และจะเอารูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจในรัฐคุชราตหรือคุชราตโมเดลมา เป็นต้นแบบ รวมถึงจะสร้างงานใหม่ๆ เพื่อรองรับเพิ่มขึ้นของประชากรวัยแรงงาน ซึ่งเพิ่มขึ้นปีละมากกว่า 15 ล้านคน ในอีก 20 ปีข้างหน้าให้ได้

ด้วยความสำเร็จจากรัฐคุชราต แนวนโยบายที่ถูกใจประชาชนรวมถึงความสามารถในการปราศรัย โมดีชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย และได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลกเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แคมเปญแรกที่นายกฯโมดีตั้งใจและทุ่มเทอย่างมาก คือแคมเปญ “Make in India” ไม่ใช่ Made in India นะครับ เพราะโมดีเขาเน้นการดึงดูดให้บริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ให้มาลงทุนผลิตสินค้าให้มากขึ้นใน อินเดีย   Make in India มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาอินเดียให้เป็นศูนย์กลางการผลิตของโลก ที่เน้นการส่งเสริม อุตสาหกรรม 25 สาขา  แคมเปญที่สำคัญอีกอันหนึ่งของโมดี คือ “ดิจิตอลอินเดีย” ที่เขามุ่งมั่นที่จะยกระดับ ประเทศอินเดียด้วยการใช้ดิจิตอลมาเป็นตัวขับเคลื่อน และพยายามที่จะเชื่อมต่อทุกพื้นที่ในชนบทของประเทศ ด้วยเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งจะเป็นการยกระดับการให้บริการของภาครัฐต่อประชาชนอีกด้วย

ส่วนแคมเปญ “สมาร์ท ซิตี้” ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่มีเป้าหมายจะเปลี่ยนอินเดียให้เป็นศูนย์กลาง การผลิตและผู้ให้บริการของโลกให้ได้ ภายในปี 2573 ด้วยการลงทุนปฏิรูปเมืองใหญ่ 100 เมืองทั่วประเทศ ให้กลายเป็นสมาร์ทซิตี้โดยวิธีการเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติ ให้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมลงทุนในแต่ละเมือง

นอกจากนโยบายด้านเศรษฐกิจ นายกฯโมดียังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความรุนแรงทางเพศ ปัญหาการ ขาดแคลนไฟฟ้าและห้องน้ำ ล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นายกฯโมดีได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวัน ประกาศเอกราชว่ารัฐบาลของเขาได้สร้างสุขาเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 ล้านแห่งให้กับหมู่บ้านต่างๆ พร้อมทั้งติดตั้ง ระบบไฟฟ้าให้กับหมู่บ้านเสร็จแล้ว 10,000 แห่งจาก 18,000 แห่งทั่วประเทศ แล้วเขาก็ประกาศภาระกิจขับ เคลื่อนการรักษาความสะอาดทั่วประเทศ โดยรัฐบาลจะทุ่มงบประมาณอีกมหาศาลเพื่อฟื้นฟูแม่น้ำคงคา ซึ่งเป็น แม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวอินเดียมาตั้งแต่ยุคโบราณให้สำเร็จภายในวาระการดำรงตำแหน่งอีกด้วย

ต้องยอมรับว่าโมดีเป็นนายกฯที่สามารถยกให้อินเดียมีบทบาทที่โดดเด่นขึ้นมาบนเวทีโลกได้อย่างไม่น้อยหน้า ประเทศมหาอำนาจอื่นๆ นอกจากเขาจะขยันเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำระดับโลกในแทบจะทุกเวที แล้ว เขายังขยันเดินทางเยือนเพื่อสานสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศต่างๆอีกมากมาย รวมถึงการเยือนหลายๆประเทศ ที่นายกฯอินเดียในอดีตไม่เคยเดินทางไปเยือนนานมาแล้ว เช่นเขาเป็นนายกฯอินเดียคนแรกที่เดินทางเยือนสาน สัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศเนปาล ในรอบ 17 ปี  เป็นนายกฯอินเดียคนแรกที่เดินทางเยือนออสเตรเลีย ในรอบ 28 ปี เป็นนายกฯอินเดียคนแรกที่เดินทางเยือนฟิจิ ในรอบ 31 ปี และเป็นนายกฯอินเดียคนแรกที่เดินทางเยือน มองโกเลีย รวมถึงยังเริ่มสานสัมพันธ์กับโลกตะวันออกกลางอีกครั้ง ด้วยการเดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเขาเป็นนายกฯอินเดียคนแรกที่ไปเยือนในรอบ 34 ปี

นอกจากนี้ในการเดินทางเยือนประเทศในอาเซียนบวกหก เช่นญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ โมดีก็ประสบความสำเร็จ ในการเชิญชวนนักลงทุนชาติเหล่านี้ให้เข้าไปลงทุนในอินเดีย ส่วนทางยุโรป โมดีก็ได้เดินทางเยือนฝรั่งเศสและ เยอรมนี ซึ่งในทุกการเดินทางเยือนประเทศต่างๆของโมดี จะมีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือตามมาแทบ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การค้า หรือด้านพลังงาน

ในปี 2557 ปีแรกของการเป็นนายกฯ โมดีเดินทางไปเยือน 9 ประเทศ  ต่อมาในปี 2558 เขาเดินทางไปเยือนทั้ง หมด 26 ประเทศ และสถิติที่น่าอะเมซิ่งที่สุดในการเดินทางต่างประเทศของโมดีก็คือ การเดินทางเยือน 5 ประเทศ ภายในเวลา 140 ชั่วโมงซึ่งไม่ได้เป็นการเดินทางเยือนเฉยๆแต่ยังมีการลงนามในข้อตกลงต่างๆอีก 45 ฉบับ

โมดีจึงเป็นนายกฯที่เดินทางมากที่สุดคนหนึ่งของโลก นี่ขนาดยังไม่นับการพบปะกับผู้นำของประเทศต่างๆ อีกมากมายในการเข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติที่เขาไม่ยอมพลาดที่จะเข้าร่วมเพื่อยกบทบาทของอินเดียให้ทั่ว โลกยอมรับ จำชื่อ “นเรนทรา โมดี” นี้เอาไว้ให้ดีเถอะครับเพราะเขาจะเป็นคนที่โลกยกย่องในฐานะนายกรัฐมนตรีที่สามารถ นำพาอินเดียให้กลายเป็นประเทศชั้นนำของโลกได้อย่างน่ามหัศจรรย์ 

[smartslider3 slider="9"]